สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี มีสมาชิกในการดูแลทั้งหมด 46 ชาติ ทวีปแห่งความแตกต่างมีอารยธรรมวัฒนธรรมแตกต่างกันไป แต่คงไว้ซึ่งความสวยงาม โลกของฟุตบอลเอเชียมีการจัดแต่งแบ่งเกรดกันตามความสามารถ แต่โลกของฟุตบอลสามารถเชื่อมต่อกันได้ทุกองศาไม่ว่าประเทศนั้นจะอยู่ลึกแค่ไหน? ขอเพียงใช้เท้าเตะบอลส่งกันความสัมพันธ์ฉันมิตรก็บังเกิด
ภูฏาน ประเทศที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัย เข้ามาเป็นสมาชิกของฟีฟ่าตั้งแต่ปี 2000 ปัจจุบันรั้งอันดับ 189 ของโลก ฟุตบอลที่นี่อาจจะไม่ใช่กีฬาเบอร์หนึ่งที่ประชาชนภูฏานคลั่งไคล้เพราะส่วนใหญ่จะชื่นชอบการยิงธนูตามสนามกีฬาต่างๆในประเทศจะมีสนามยิงธนูตีคู่ในทุกพื้นที่ แต่การพัฒนาด้ายกายภาพสู่คำว่าคุณภาพของทีมสมาพันธ์ฟุตบอลภูฏานก็ไม่ได้ลดละความพยามแม้ว่าประเทศจะตั้งอยู่ในหุบเขาค่าเฉลี่ยระดับความสูง 10,760 ฟุต การสร้างสถานที่ต่างๆเต็มไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งความมุ่งมั่นตั้งใจของคนในประเทศทำให้เกิดสนามกีฬาแห่งชาติชางลีมิถัง สนามกีฬาที่มีระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 2,300 เมตร หรือประมาณ 7,500 ฟุต
ชางลีมิถัง..สนามฟุตบอลสวยและสูง ที่ชวนให้ทึ่ง
ภาพสะดุดตาของสนามกีฬาชางลีมิถัง ทุกอย่างเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ตัวตนของประเทศแสดงออกถึงสถาปัตยกรรมวัฒนธรรมประเพณีทางศิลปะที่ไม่เหมือนใครในโลกกอดรัดความเป็นตัวตนของตัวเองส่งต่อชาวโลกได้ชัดเจน เมื่อย่างก้าวเข้าไปสัมผัสจะรู้ว่าสนามฟุตบอลแห่งนี้เป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์ของโลกนอกเหนือจากเรื่องของความสูงจากระดับน้ำทะเล ด้วยวิวและทิวทัศน์รอบด้านบรรยากาศเต็มไปด้วยภูเขา,ต้นไม้เขียวขจี ด้านนอกมีธารแม่น้ำใหญ่บริเวณฝั่งอัฒจันทร์หลักผนวกรวมกับอากาศที่เย็นสบายบ่งบอกได้ถึงความสมบูรณ์ของประเทศ
ชางลีมิถัง..สนามฟุตบอลสวยและสูง ที่ชวนให้ทึ่ง
สนามแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1974 ก่อนที่จะถูกปรับปรุงพัฒนามาเรื่อยๆจนถึงยุคที่สมบูรณ์ในปัจจุบัน พื้นสนามเดิมทีเป็นหญ้าจริง สภาพสนามไม่เรียบเนียนขรุขระก่อนที่จะปรับมาเป็นพื้นสนามหญ้าเทียมเพื่อง่ายต่อการดูแล อีกทั้งยังใส่เก้าอี้ที่นั่งให้ได้ตามมาตรฐานการแข่งขันจากเดิมอัฒจันทร์เป็นปูนเปลือย ความสวยงามทั้งหมดถูกทอดยาวเคียงคู่กับธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมทำให้สนามฟุตบอลแห่งนี้โดดเด่นกลางหุบเขาในดินแดนมังกรแห่งสายฟ้า ตลอดระยะเวลาการดำเนินการสร้างสนามปรับปรุงสนามแข่งขันภูฏานใช้เวลาในการจัดการอยู่เรื่อยๆอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2007-2019
ชางลีมิถัง..สนามฟุตบอลสวยและสูง ที่ชวนให้ทึ่ง
ปี 2011 สนามฟุตบอลที่เป็นหัวใจหลักของสนามกีฬาแห่งชาติถูกปรับปรุงใหญ่ทุกจุดตั้งแต่ไฟส่องสว่าง,ห้องแต่งตัว การติดตั้งเกาอี้ที่นั่งโดยรอบจากบริษัทใหญ่ในประเทศอินเดีย นอกจากนั้นสนามกีฬาแห่งนี้ยังมีพื้นที่เป็นที่ตั้งของสมาพันธ์ฟุตบอลภูฏาน จึงนำเงินจากฟีฟ่ามาพัฒนาด้านอื่นๆเพิ่มเติมโดยเฉพาะเรื่องของพื้นสนามที่เปลี่ยนเป็นพื้นสนามหญ้าเทียมแต่ปัญหาการติดตั้งพื้นสนามก็มีปัจจัยปัญหาเล็กน้อยเมื่อต้องเผชิญกับรอยต่อของฤดูกาลที่หนาวจัดรวมไปถึงช่วงของพายุฤดูร้อนสุดท้ายก็ต่อสู้จนบรรลุเป้าหมายโดยงบประมาณในการปรับปรุงทั้งหมดในช่วงโค้งสุดท้าย 30 ล้านบาท
ชางลีมิถัง..สนามฟุตบอลสวยและสูง ที่ชวนให้ทึ่ง
เมื่อสนามเสร็จสิ้นชาวเมืองทิมพูเมืองหลวงที่เป็นที่ตั้งของสนามแห่งนี้กลายเป็นความภูมิใจของคนในชาติรวมไปถึงทุกคนอยากจะลงไปสัมผัสความสดใหม่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่ทุกฝ่ายร่วมมือกัน ช่วงแรกของการเปิดสนามมีประชาชนแสดงความจำนงขอเข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก เปิดบริการ 17.00 น. แต่เมื่อมีผู้ใช้จำนวนมากต้องลากยาวไปปิดถึงตีหนึ่งเพราะมีการเปิดให้ใช้ตามคิวที่จอง สนามแห่งนี้กลายเป็นสนามที่สร้างรายได้ให้กับสมาพันธ์ฟุตบอลภูฏาน เนื่องจากทุกวันจะมีผู้มาเช่าใช้ สัปดาห์แรกของการเปิดตัว มีรายได้ถึง 75,000 งุลตรัม(ประมาณ 32,075 บาท) เงินส่วนนี้จะถูกนำไปรวมกับเงินกองทุนเพื่อนำไปใช้ปรับพื้นสนามทั่วประเทศเพื่อเป็นการยกระดับสนามฟุตบอลภายในประเทศให้เด็กๆและเยาวชนได้มีโอกาสพัฒนาด้านฝีเท้าต่อไป
ชางลีมิถัง..สนามฟุตบอลสวยและสูง ที่ชวนให้ทึ่ง
ช่วงปี 2004 สโมสรฟุตบอล “มังกรไฟ”บีอีซี เทโรฯ ภายใต้การคุมทัพของ “โค้ชเตี้ย”สะสมพบประเสริฐ ได้เดินทางพาทีมไปคว้าแชมป์ที่สนามแห่งนี้ในยุคที่ยังไม่ปรับปรุง นักเตะยุคนั้นนำโดย จตุพงษ์ ทองสุข,วรชัย สุรินทร์ศิริรัฐ,นเรศ สุขงาม,ดัสกร ทองเหลา,จักรพันธ์ แก้วพรม,อานิสงค์ เจริญธรรม,มานะ นพเนตร ฯ แต่ก็ต้องยอมรับว่าสนามแข่งขันแห่งนี้เมื่อมีเกมฟุตบอลระดับนานาชาติแฟนบอลเจ้าถิ่นจะเข้าไปชมเกมการแข่งขันกันอย่างหนาแน่น นอกจากนั้นบรรยากาศนอกสนามยังเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่มักจะมาเชียร์กีฬาด้วยชุดประจำชาติและที่ขาดไม่ได้คือ “หมาก”ที่จัดไว้เป็นคำๆสำหรับขายหน้าสนามยุคนั้นถือว่าเป็นเรื่องยอดฮิตของแฟนบอลภูฏาน
เพิ่มเติม : puntmagic.com
|