คาริม เบนเซม่า ฟอร์มสุดแจ่มหลังทั้งยิง-ทั้งจ่ายก่อนพา "ราชันชุดขาว" ดับซ่า อลาเบส 2-0 ทำสถิติคว้าชัยในลีกหลังรีสตาร์ทกลับมาถึง 8 นัดติดต่อกัน พร้อมนำจ่าฝูงต่อไปโดยทิ้ง บาร์เซโลน่า 4 คะแนนเหมือนเดิม ในศึก ลา ลีกา สเปน เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
สนาม : เอสตาดิโอ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่

    เกม ลา ลีกา นัดที่ 35 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ระหว่างจ่าฝูง เรอัล มาดริด ที่คว้าชัยในลีกมา 7 เกมติด นัดล่าสุดบุกไปเชือด แอธเลติก บิลเบา 1-0 เกมนี้เปิดบ้านรับมือ อลาเบส ทีมอันดับ 17 ที่ต้องหนีตกชั้น หลังมีแต้มมากกว่าโซนตกชั้นแค่ 3 คะแนน

    ซีเนดีน ซีดาน ขาดทั้ง เซร์คิโอ รามอส และดานี่ การ์บาฆาล ที่ติดโทษแบน ทำให้ส่ง เอแดร์ มิลิเตา กับลูกัส บาซเกซ ลงเล่นแทน ส่วนสามประสานแนวรุกเป็น โรดรีโก้, คาริม เบนเซม่า และ มาร์โก อเซนซิโอ้ ขณะที่ทีมเยือนซึ่งมี อาเซียร์ การีตาโน่  คุมทัพวางคู่หน้าเป็น ลูกัส เปเรซ และโฆเซลู

    เริ่มเกมมาได้แค่ 2 นาที เจ้าบ้าน เรอัล มาดริด ครอสบอลจากด้านซ้ายมาเสาไกลให้ ลูกัส บาซเกซ ปาดเลียดเข้ากลางมาให้ ลูก้า โมดริช วิ่งมาซัดด้วยขวาแต่จังหวะยิงลื่นทำให้บอลเหินออกไปไกล

    ถัดมาแค่นาทีเดียว อลาเบส เกือบชิงขึ้นนำ หลังบอลสวนกลับเร็วของ เอ็ดการ์ เมนเดซ ครอสมาหน้าประตูให้ โฆเซลู โขกไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

     นาที 10 เรอัล มาดริด มาได้ลูกที่จุดโทษ หลัง ชิโม่ นาบาร์โร่ แบ็กขวาไปเสียบด้านหลังใส่ โรดรีโก้ ในเขตโทษผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ ก่อนที่ คาริม เบนเซม่า จะสังหารเข้าไปไม่พลาด เรอัล มาดริด ขึ้นนำ อลาเบส 1-0

    นาที 23 ชิโม่ นาบาร์โร่ คนทำเสียจุดโทษเล่นต่อไม่ไหวทำให้ อลาเบส ต้องส่ง มาร์ติน อากีร์เร่กาบิเรีย ลงเล่นแทน

    นาที 26 อลาเบส เกือบทวงประตูไล่ตีเสมอสำเร็จ หลังบอลสวนกลับของ โอลิเวอร์ เบิร์ก กระชากขึ้นมาทางซ้ายคนเดียวก่อนตัดเข้ากรอบแล้วซัดด้วยขวาไปทางเสาไกล แต่ยังไม่ผ่านมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ที่พุ่งปัดออกไปได้หวุดหวิด

    นาที 35 โอลิเวอร์ เบิร์ก ทำป่วนเกมรับชุดขาวหลังโชว์สเต็ปเทคนิคหลอก มิลิเตา อย่างเหนือชั้น แล้วหลุดไปถึงเส้นหลังก่อนไหลเข้ากลางให้ โฆเซลู ยิงด้วยขวาออกหลังไป

    ทดเจ็บ นาที 45+6 โรดรี้โก้ จ่ายมาให้ คาริม เบนเซม่า ได้ซัดด้วยขวาในกรอบแต่บอลจังหวะสุดท้ายังยิงไม่ผ่านมือ โรเบร์โต้ ฆิมิเนซ นายด่านอลาเบสที่รับไว้ได้

    ครึ่งหลัง มีการเปลี่ยนตัวผู้ตัดสินหลัง เฆซุส กิล มีอาการเจ็บขาเป่าต่อไม่ไหวทำให้ต้องส่ง เฮคตอร์ โรดริเกซ ผู้ตัดสินที่ 4 มาทำหน้าที่แทน

    นาที 50 เรอัล มาดริด พังประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ โรดรีโก้ จ่ายให้ คาริม เบนเซม่า หลุดเข้าไปในกรอบแล้วปาดถวายพานมาหน้ากรอบให้ มาร์โก อเซนซิโอ้ ยิงด้วยซ้ายโล่งๆเข้าไป ทว่าประตูนี้แข้ง อลาเบส ประท้วงว่าเป็นล้ำหน้าไปก่อนแล้ว ทำให้ผู้ตัดสินต้องเช็กกับ VAR ก่อนจะยืนยันให้ประตูกับชุดขาว เนื่องจาก บิคตอร์ ลากวาร์เดี เซ็นเตอร์แบ็กอลาเบสขึ้นมาช้ากว่าทำให้ เบนเซม่า ไม่ล้ำหน้า

    นาที 58 "ชุดขาว" เกือบได้เม็ดที่สามเพิ่มเติม หลัง อเซนซิโอ้ ไหลบอลเข้ากลางประตูให้ คาริม เบนเซม่า ซัดด้วยขวาแต่บอลยังไปโดน โรเบร์โต้ ฆิมิเนซ พุ่งเซฟออกมาได้

    อีก 3 นาทีถัดมา ทีมเยือนเกือบได้ลูกตีไข่แตก เมื่อ เอ็ดการ์ เมนเดซ ขึ้นบอลทางขวาแล้วแทงต่อให้ โฆเซลู หลุดไปซัดมุมแคบทางซ้ายแต่ยังไปติดเซฟของ  ติโบต์ กูร์กตัวส์

    นาที 70 ซีดาน เปลี่ยนเอา วินิซิอุส จูเนียร์มาลากเลื้อยแทน มาร์โก อเซนซิโอ เช่นเดียวกับ เฟเด  บับเบร์เด้ ได้รับโอกาสลงไปเล่นแทน ลูก้า โมดริด

    ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม เรอัล มาดริด บดเอาชนะ อลาเบส ไปแบบไม่ยาก 2-0 ซิวสามแต้มสำคัญพร้อมนำจ่าฝูงหนีบาร์เซโลน่า 4 คะแนนเหมือนเดิม

    รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

    เรอัล มาดริด (4-3-1-2) ติโบต์ กูร์กตัวส์ - ลูกัส บาซเกซ, เอแดร์ มิลิเตา, ราฟาแอล วาราน, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ - โทนี่ โครส, เอ็นรีเก้ คาเซมีโร่, ลูก้า โมดริช (เฟเด้ บัลเบร์เด้ น.70) - โรดรีโก้ (อิสโก้ น.82), คาริม เบนเซม่า (เอแดน อาซาร์ น.82), มาร์โก อเซนซิโอ้ (วินิซิอุส จูเนียร์ส น.70)

    อลาเบส (4-4-2) โรเบร์โต้ ฆิมิเนซ - ชิโม่ นาบาร์โร่ (มาร์ติน อากีร์เร่กาบิเรีย น.23), โรดริโก้ เอลี่, บิคตอร์ ลากวาร์เดีย, อาเดรียน มาริน - โอลิเวอร์ เบิร์ก,  บิคตอร์ กามาราซ่า, ลูโบเมียร์ เฟจ์ซ่า (อับเดลลาฮี มาหมู้ด น.55), เอ็ดการ์ เมนเดซ (บอร์ฆ่า ซาอินซ์ น.68) -  ลูกัส เปเรซ (หลุยส์ โรฆ่า น.55),  โฆเซลู (โฆเซลู น.69)

ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว แวดวงกีฬา เทรนใหม่ๆ ได้ที่