แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมทำศึกวันบ็อกซิ่งเดย์ด้วยการเปิดรัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ นิวคาสเซิ่ล แน่นอนว่าเกมนี้ โซลชา ต้องการจะพาลูกทีมกลับมาคืนฟอร์มเก่งให้ได้หลังจากไร้ชัยชนะมา 2 นัดติดต่อกัน แต่ทว่าการเจอกับทีม "สาลิกาดง" ในชั่วโมงนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย กุนซือ "ผีแดง" คงต้องทำการบ้านอย่างหนักหากหวังจะเก็บสามแต้ม ก่อนเกมนี้จะแข่งขันเรามีประเด็นที่น่าสนใจมาให้อ่านกันในวันเปิดกล่องของขวัญแบบนี้!
1.ป็อกบาต้องตัวจริง!

เกมกับวัตฟอร์ดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ยังตอกย้ำให้เห็นว่าผีแดงไร้ไอเดียในการเข้าทำเมื่อเจอกับทีมในระดับที่ต่ำกว่าพวกเขา สำหรับ เจสซี่ ลินการ์ด ซึ่งลงเล่นตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์นั้นยังคงทำผลงานได้ย่ำแย่เช่นเคย เห็นจังหวะที่เจ้าตัวหลุดเดี่ยวแล้วยิงพลาดทำให้รู้ว่าความมั่นใจของเขาหดหายไปอย่างชัดเจน นับเป็นเวลาหนึ่งปีเต็มแล้วที่เขาไม่สามารถทำประตูในพรีเมียร์ลีกได้เลย

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ ลินการ์ด ถูกเปลี่ยนตัวออกแล้ว ปอล ป็อกบา ลงสนามมาแทน ผีแดงสร้างโอกาสยิงประตูได้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดซึ่งส่วนใหญ่มาจากการทำชิ่งเร็วและการวางบอลสุดแม่นยำของ ปอล ป็อกบา น่าเสียดายที่เพื่อนร่วมทีมจบสกอร์กันไม่ได้เอง แต่สิ่งนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าทีมขาดกองกลางชาวฝรั่งเศสรายนี้ไปไม่ได้ หากเขาฟิตเต็มถังก็ควรจะถูกส่งลงเป็นตัวจริงเท่านั้น เพราะฉะนั้นคืนนี้การส่งเขาลงเล่นเป็นตัวจริงหรือตัวสำรองจะส่งผลกับรูปเกมที่ออกมาแน่นอน

2.โรบินฮู้ดอีกหรือเปล่า?

คืนนี้แฟนผีแดงคงหวั่นใจไม่น้อยเนื่องจากพวกเขาจะต้องเจอทีมที่ไม่ใช่ท็อป 6 ของลีกอีกแล้ว ซึ่งเมื่อดูจากสถิติแล้วก็น่าเป็นห่วงจริงๆเพราะการเจอกับทีมที่ไม่ใช่หกสโมสรชั้นนำของลีกทั้งหมด 13 เกมที่ผ่านมา โซลชา พาลูกทีมพ่ายแพ้ไปแล้วถึง 5 นัดและเสมออีก 5 นัด เท่ากับว่าผีแดงชนะแค่ 3 นัดเท่านั้น ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ชนะแล้วได้เพียงแค่ 23% เท่านั้น ซึ่งมันก็ส่งผลต่ออันดับในลีกตอนนี้มากเพราะโซลชาและลูกทีมเก็บคะแนนได้ต่ำที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษของสโมสรเลยทีเดียว คืนนี้พวกเขาจะเป็นโรบินฮู้ดอีกหรือไม่?

3.บทเรียนจากเกมที่แล้ว

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา คงจำฝังใจกับประตูชัยที่ แม็ตธิว ลองสตาฟฟ์ ซัดใส่แมนฯยูไนเต็ด เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ใครยังจำกันได้เกมนั้น "ปีศาจแดง"  ครองเกมเหนือกว่าแต่ไม่เกิดประโยชน์เพราะพวกเขาต่อบอลไปต่อบอลมาและตบท้ายด้วยการส่งบอลพลาด จนกระทั่ง นิวคาสเซิ่ล ที่ครองบอลน้อยกว่าแต่มีลูกทีเด็ดทีขาดมากกว่า ใช้จังหวะสวนกลับและอาศัยความผิดพลาดในการเช็คไลน์ของ อันเดรส เปเรยร่า ทำให้ แม็ตธิว ลองสตาฟฟ์ ซัดไกลเข้าไปตุงตาข่าย

เป็นอีกเกมที่ผีแดงครองบอลมากกว่าคู่แข่งแต่เอาชนะไม่ได้โดยสถิติตอนนี้พวกเขาเอาชนะได้แค่เกมเดียวจาก 17 นัดในฤดูกาลนี้เมื่อครองบอลมากกว่าคู่แข่ง (เสมอ 8 แพ้ 8)  เชื่อว่า โซลชา มีเรื่องให้ต้องคิดหนักแน่นอนเนื่องจากรูปเกมคืนนี้คงจะไม่ต่างไปจากเดิม

4.บรูซกำลังฮอต

สตีฟ บรูซ เคยเจอแรงกดดันมหาศาลในช่วงต้นซีซั่นหลังจากพา นิวคาสเซิ่ล ออกสตาร์ทได้ย่ำแย่จนถึงขนาดอยู่ในโซนตกชั้น แถมตอนนั้นเขาถูกบ่อนพนันยกให้เป็นเต็งหนึ่งผู้จัดการทีมที่จะถูกปลดออกจากตำแหน่งด้วย เขาถูกคาดหมายว่าจะโดนเด้งหลังจากพ่ายแพ้ต่อ  เลสเตอร์ ซิตี้ 5-0 แต่ก็รอดมาได้จนกระทั่งเกมถัดมาเขาพลิกล็อกเอาชนะ แมนฯยูไนเต็ด ได้สำเร็จในช่วงต้นเดือนตุลาคม

หลังจากนั้นผลงานก็ดีขึ้นเป็นลำดับ โดย 5 เกมหลังสุดในลีก ทีมสาลิกาพ่ายแพ้แค่เกมเดียวเท่านั้น แถมเก็บชัยชนะได้ถึง 3 เกม ขณะที่อีกหนึ่งนัดคือเกมที่พวกเขาโชว์ฟอร์มสุดยอดจากการเสมอกับ แมนฯซิตี้ 2-2  ด้วยฟอร์มที่ดีแบบนี้ทำให้ลูกทีมของ สตีฟ บรูซ รั้งอันดับ 9 ของตาราง มีแต้มเท่ากับ แมนฯยูไนเต็ด ที่อยู่อันดับ 8 ด้วย ดังนั้นคืนนี้หากทัพ "เดอะ แม็กพายส์" เก็บชัยชนะได้อาจจะทำให้พวกเขาแซง ผีแดง ขึ้นไปอยู่ที่ 6 เลยทีเดียว

5.บ็อกซิ่งเดย์ของโปรดผี
เห็นสถิติในวันบ็อกซิ่งเดย์นี้แล้วแฟน "ปีศาจแดง" อาจจะอุ่นใจขึ้นมาเล็กน้อย เนื่องจาก ผีแดง ชนะเกมพรีเมียร์ลีกนัดบ็อกซิ่งเดย์มากกว่าทุกทีม (20 นัด) ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ชนะถึง 80% เลยทีเดียว และในทางตรงกันข้าม นิวคาสเซิ่ล แพ้เกมพรีเมียร์ลีกนัดบ็อกซิ่งเดย์มากกว่าทุกทีม (13 นัด) นอกจากนี้ แมนฯยูไนเต็ด ไม่แพ้เกมในบ้านในวันบ็อกซิ่งเดย์มาตั้งแต่ปี 1978 แล้ว (แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3) ซึ่งหลังจากนั้นพวกเขาก็ชนะในโอลด์ แทรฟอร์ดถึง 15 นัดและเสมอแค่ 3 นัด

เพิ่มเติม : birthdaycrunch.com