สโมสรฟุตบอลยะโฮร์ดารุล ทาซิม ยอดทีมลีกสูงสุดของมาเลเซีย ที่เริ่มขับเคลื่อนตัวเองมาตั้งแต่ปี 1972 พร้อมการเปลี่ยนแปลงที่เดินหน้ามากมายช่วงปี 2013 จนถึงปัจจุบันภายใต้การทำงานที่จริงจังหนักแน่นทั้งในแง่ของการพัฒนาทีมและการพัฒนาสโมสร โดยเฉพาะเรื่องของการยกระดับสโมสรให้มีมาตรฐานระดับสูง สุลต่าน ตวนกู อิสมาอิล อิบราฮิม เจ้าของทีมสร้างทุกอย่างเหมือนเนรมิตให้สนามแข่งขัน,สนามฝึกซ้อม,สำนักงาน,ห้องฟื้นตัวนักกีฬา รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆเทียบชั้นทีมชั้นนำของโลก
ทุกครั้งที่เดินทางไปเยือนสโมสรต่างประเทศมักนำเรื่องราวต่างๆกลับมาพัฒนาสโมสรต้นสังกัดเสมอ การสร้างเหย้าแห่งใหม่ สุลต่านอิบราฮิม สเตเดี้ยม ความจุ 40,000 ที่นั่ง มูลค่า แทนที่สนามเก่า ละร์คิน สเตเดี้ยม รังเหย้าเดิมที่มีความจุ 30,000 ที่นั่ง มีมูลค่าสูงถึง 1,500 ล้านบาท แล้วเสร็จไปเมื่อต้นปี 2020 อาจจะเป็นเรื่องที่ทุกคนในวงการลูกหนังเอเชียให้ความสนใจเพราะนอกจากสนามใหม่แห่งนี้จะมีมูลค่าสูงแล้วยังเป็นสนามแข่งขันที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัยมากมายรวมไปถึงรูปลักษณ์ที่ถ่ายทอดออกมาผ่านสายตาแฟนบอลทั่วโลก
แต่หากเจาะลึกไปมากกว่านั้นสโมสรฟุตบอลยะโฮร์ดารุล ทาซิม ยอดทีมของมาเลเซีย กลับมีการสร้างความพร้อมด้านอื่นๆเพื่อพัฒนาขีดความสามารถนักกีฬาอย่างเต็มเปี่ยมทั้งเรื่องของ สำนักงานสโมสรที่โอ่โถง,สนามฝึกซ้อมที่นำเอาเครื่องมือทันสมัยเข้ามาช่วยเรื่องการสร้างความแข็งแกร่งของนักกีฬาแบบมีรั้วรอบขอบชิดเป็นส่วนตัว เครื่องมือทางการแพทย์ที่นำมาใช้ไม่ต่างจากสโมสรฟุตบอลในยุโรปสำหรับการฟื้นฟูสภาพนักกีฬาและที่สำคัญมีสนามฝึกซ้อมในร่มขนาด 16 x 109.2 เมตร ที่สร้างเสร็จในปี 2016
นอกจากนั้นสโมสรยะโฮร์ ดารุล ทาซิม ยังเดินหน้าสร้าง JDT Sports City มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไว้สำหรับการพัฒนาศักยภาพทุกด้านของสโมสรรวมไปถึงการสร้างรายได้เพิ่มเติมแบบครบวงจร เพราะไม่ใช่แค่เรื่องของฟุตบอลในสถานที่แห่งนี้ยังมีโรงแรมที่พักและ ชอปปิ้ง มอลล์ ในแง่ของการพัฒนาเยาวชนสโมสรยักษ์ใหญ่ของมาเลเซียนอกจากเข้มข้นในวิธีการสร้างนักเตะแล้วยังมีการทำพันธมิตรร่วมมือการพัฒนากับ ดอร์ทมุน(เยอรมัน),ซัปโปโร(ญี่ปุ่น),บาเลนเซีย (สเปน) อีกทั้งยังวางแผนไปเดินหน้าสร้างศูนย์ฝึกสำหรับเยาวชนยะโฮร์ฯในประเทศสเปน
ที่ผ่านมาหลังปี 2013 การว่าจ้างผู้เล่นสู่ทีมชุดใหญ่ก็นับว่าเป็นสิ่งที่สโมสรแห่งนี้กล้าทุ่มทุนแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยในทีมชุดปัจจุบันมีนักเตะอย่าง ดิเอโก้ หลุยส์ซานโต แข้งทีมชาติบราซิล ชุด ยู 20 อดีตนักเตะสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ,โอลิมเปียกอส,พัลไมรัส , เลอันโดร วาลาสเควส แข้งอาร์เจนติน่า อดีตผู้เล่สสโมสรอินดิเพนเดียนเต,เมาลิซิโอ แข้งบราซิลอดีตผู้เล่นของสโมสรลาซิโอ และ กอนซาโล คาเบร่า ดาวเตะอาร์เจนไตน์เชื้อสายอิรักที่เคยผ่านการเล่นระดับให้โบคา จูเนียร์ ช่วงปี 2013-2014 สโมสรเคยว่าจ้างดาวดังระดับโลกอย่าง พาโบล ไอมาร์ กองกลางทีมชาติอาร์เจนติน่ามาร่วมทัพ
นี่คือแง่มุมของการสร้างทีมฟุตบอลที่ไม่ใช่แค่เรื่องของเกมการแข่งขันในสนาม แต่เรื่องขององค์ประกอบไปนอกกลายเป็นแรงดึงดูดชั้นดีในการดึงนักเตะเข้ามาสู่ทีม และที่สำคัญทุกการพัฒนาย่อมถูกบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ เพราะฟุตบอลมีขึ้นมีลง
เพิ่มเติม : letspartymagazine.com
|