[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ติดต่อสอบถาม
blog สมาชิก
สถิติผู้เขียน blog 10 อันดับ
wave
[ มือใหม่ ]
2
admin
[ มือใหม่ ]
2
orean
[ มือใหม่ ]
2
KAT
[ มือใหม่ ]
1
yuy
[ มือใหม่ ]
1
aTon
[ มือใหม่ ]
1
fang
[ มือใหม่ ]
1
film
[ มือใหม่ ]
1
mild
[ มือใหม่ ]
1
Donus
[ มือใหม่ ]
1
บทความ blog ล่าสุดโดย
เพลงคริสต์มาสtortae
การดูแลรักษาสุภาพ ให้แข็งแรงaTon
ประเพณีวันเข้าพรรษาmild
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
อาเซียนDonus
การวาดภาพสีนำ้lovepop-123456
อาเซียนmikekung02
ลดความอ้วนสูตรนางเอก 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์yuy
ปรากฏการณ์ธรรมชาติMin-Mintra
ไลน์ โรงเรียนศรัทธาฯ

ติดต่อ สอบถาม

poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก

  

   เว็บบอร์ด >> >>
เรอัล มาดริด จัดการปราบ เชลซี ได้ตามคาด 2-0  VIEW : 62    
โดย E

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 116
ตอบแล้ว : 1
เพศ :
ระดับ : 8
Exp : 73%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 194.5.82.xxx

 
เมื่อ : พฤหัสบดี ที่ 20 เดือน เมษายน พ.ศ.2566 เวลา 13:00:20   

 

"ชุดขาว" ตุนสกอร์ก่อน! เรอัล มาดริด จัดการปราบ เชลซี ได้ตามคาด 2-0 เบนเซม่า และอเซนซิโอ้ กดคนละเม็ด พาทีมกุมความได้เปรียบก่อนในยกแรก โดยเกมนี้ "สิงห์บลูส์" ต้องเหลือ 10 คนหลัง เบน ชิลเวลล์ โดนไล่ออก โดยนัดที่สองจะเล่นกันในวันอังคารหน้าที่ "เดอะ บริดจ์" เพื่อหาผู้ชนะผ่านเข้าไปเล่นในรอบตัดเชือกต่อไป
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อวันพุธที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา เจ้าบ้าน เรอัล มาดริด อดีตแชมป์รายการนี้ 14 สมัย เปิด ซานติอาโก้ เบร์นาเบว รับการมาเยือนของ เชลซี

คาร์โล อันเชลอตติ เกมนี้จัดสามแนวรุกทั้ง โรดรีโก้, วินิซิอุส จูเนียร์ และ คาริม เบนเซม่า กัปตันทีมล่าตาข่าย โดยมีสองมิดฟิลด์จอมเก๋าทั้ง ลูก้า โมดริช และโทนี่ โครส คุมกลาง

ส่วนทางด้าน แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือขัดตาทัพของ "สิงห์บลูส์" ได้ ติอาโก้ ซิลวา กัปตันทีมหายเจ็บกลับมาคุมแนวรับ ส่วนแดนกลางให้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ สตาร์ตตัวจริงร่วมกับ มาเตโอ โควาชิซ และ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ โดยมี ราฮีม สเตอร์ลิง และ ชูเอา เฟลิกซ์ รับบทหน้าคู่

เปิดฉากมาไม่ถึงสองนาที "สิงห์บลูส์" เกือบได้ลุ้นขึ้นนำหลังจังหวะโต้กลับเร็ว ก็องเต้ แทงให้ ชูเอา เฟลิกซ์ หลุดจากครึ่งสนามควบบอลเข้าไปก่อนซัดไปติดเซฟ กูร์กตัวส์

ใบเหลืองแรกของเกมมาอย่างรวดเร็วหลัง นาทีที่ 5 เวสลี่ย์ โฟฟาน่า เอา วินิซิอุส จูเนียร์ ไม่อยู่หลังโดนแตะหลบจนต้องดึงเสื้อไว้อย่างน่าเกลียด

อีกสองนาทีต่อมา ราฮีม สเตอร์ลิง เรียกใบเหลืองจาก กามาวินก้า ได้บ้างหลังกระชากหลบกำลังจะเข้ากรอบเขตโทษแต่โดนเสียบล้มลงใกล้มุมธงฝั่งขวา ก่อนที่ เบน ชิลเวลล์ จะซัดบอลเหินคานออกไปแบบหมดลุ้น

นาที 12 เรอัล มาดริด ได้ลุ้นเข้ากรอบหนแรกหลัง เบนเซม่า ล็อกหนี ติอาโก้ ซิลวา ก่อนซัดมุมแคบเสาแรกไปเข้ามือ เกปา

นาที 17 เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ตัดบอลได้จาก เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ จากหน้ากรอบก่อนตะบันไกลเต็มแรง ทว่าบอลพุ่งเลยคานออกไปแบบได้เสียว

หลังบดอยู่นาน นาที 21 สุดท้ายเจ้าบ้าน เรอัล มาดริด มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ การ์บาฆาล ตักบอลข้ามแนวรับให้ วินิซิอุส เบียดไปเกี่ยวบอลซัดติดมือ เกปา แต่บอลไปเข้าทาง คาริม เบนเซม่า ซัดเข้าไปไม่เหลือ เป็นประตูที่ 11 ในยูซีแอลที่ยิงใส่ทีมจากผู้ดี (เชลซี, แมนซิตี้ และลิเวอร์พูล)

นาที 24 เชลซี เกือบไล่ตีเสมออย่างรวดเร็ว หลัง รีซ เจมส์ ครอสมาเสาแรกให้ ราฮีม สเตอร์ลิง พุ่งเข้าชาร์จเสาแรกแต่ยังติดเซฟของ กูร์กตัวส์ ปัดออกไปหวุดหวิด

เกมแลกกันสนุก อีกสองนาทีต่อมา วินิซิอุส ปั่นป่วนแนวรับสิงห์บลูส์อีกครั้ง ใช้ความเร็วกระชากหลบก่อนเข้าไปซัดหนีมือ เกป้า ได้แล้วแต่โดน ติอาโก ซิลวา เคลียร์บอลก่อนข้ามเส้น

เกมรุกของเจ้าบ้านยังได้ลุ้นต่อเนื่อง นาที 34 เบนเซม่า จ่ายให้ โรดรีโก้ ซัดเสาแรกไปติดเซฟ เกป้า ก่อนอีกสองนาทีถัดมา วินิซิอุส จะไหลให้ เบนเซม่า ซัดมุมแคบแต่ก็ยังไม่ผ่านมือ เกป้า ที่เซฟออกหลังได้อีกหน

จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด ขึ้นนำ เชลซี 1-0

กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาที 50 ชุดขาวเกือบได้ลุ้นเม็ดที่สอง หลัง วินิซิอุส ที่วันนี้ป่วนเกมรับ เชลซี ได้ตลอดลากหลบเลาะถึงเส้นหลังก่อนตบมาให้ เบนเซม่า ดึงจังหวะแล้วไหลนิ่มๆ ให้ โมดริช วิ่งมาปั่นเฉียดคานออกไปหวุดหวิด

นาที 55 แลมพาร์ด เปลี่ยนตัวคนแรกถอดเอา คูลิบาลี่ ที่บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวออก แล้วส่ง มาร์ค คูคูเรย่า ลงไปเล่นแทน

นาที 59 เชลซี ต้องเหลือแค่ 10 คน หลัง เบน ชิลเวลล์ โดนใบแดงโดยตรงหลังเป็นตัวสุดท้ายไปฟาวล์ โรดรี้โก้ ก่อนเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนอีกนาทีถัดมา ดาบิด อลาบา จะรับหน้าที่ซัดฟรีคิกด้วยซ้าย บอลผ่านกำแพงก่อนไปเข้ามือ เกป้า ที่อ่านขาดพุ่งรับไว้ได้

หลังตัวผู้เล่นมากกว่า เรอัล มาดริด โหมบุกไล่กดอยู่ฝ่ายเดียวก่อน นาที 74 จะมาได้ประตูที่สอง จากจังหวะเล่นสั้นที่มุมธง โมดริช ให้ โครส ก่อนแทงเข้ากรอบให้ วินิซิอุส ตบขึ้นหลังให้ มาร์โก อเซนซิโอ ตัวสำรองวิ่งมาซัดแฉลบ โฟฟาน่า แนวรับสิงห์บลูส์เข้าประตูไป หมดสิทธิ์ที่ เกป้า จะป้องกันให้ เรอัล มาดริด นำห่าง 2-0

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบเกม เรอัล มาดริด เปิดบ้านเอาชนะ เชลซี 2-0 กุมความได้เปรียบก่อนในเกมแรก โดยนัดที่สอง จะบุกไปเยือนที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ผู้ชนะรวมสองนัดจะผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ รอพบผู้ชนะระหว่าง บาเยิร์น มิวนิค หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - ดานี่ การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, ดาวิด อลาบา, เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า (อันโตนิโอ รือดิเกอร์ น.71) - ลูก้า โมดริช (ดานี่ เซบายอส น.81), โทนี่ โครส (ออเลเลียง ชูอาเมนี่ น.84), เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ - โรดรีโก้ (มาร์โก อเซนซิโอ น.71), คาริม เบนเซม่า (C), วินิซิอุส จูเนียร์

เชลซี (3-5-2) : เกปา อาร์ริซาบาลาก้า - เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, ติอาโก้ ซิลวา (C) (เมสัน เมาท์ น.75), คาลิดู คูลิบาลี่ (มาร์ค คูคูเรย่า น.55) - รีซ เจมส์, มาเตโอ โควาชิซ, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (คอเนอร์ กัลลาเกอร์ น.75), เบน ชิลเวลล์ - ราฮีม สเตอร์ลิง (ไค ฮาแวร์ตซ์ น.65), ชูเอา เฟลิกซ์ (เทรเวอร์ ชาโลบาห์ น.65)

 

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Betufa