[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ติดต่อสอบถาม
blog สมาชิก
สถิติผู้เขียน blog 10 อันดับ
wave
[ มือใหม่ ]
2
admin
[ มือใหม่ ]
2
orean
[ มือใหม่ ]
2
KAT
[ มือใหม่ ]
1
yuy
[ มือใหม่ ]
1
aTon
[ มือใหม่ ]
1
fang
[ มือใหม่ ]
1
film
[ มือใหม่ ]
1
mild
[ มือใหม่ ]
1
Donus
[ มือใหม่ ]
1
บทความ blog ล่าสุดโดย
เพลงคริสต์มาสtortae
การดูแลรักษาสุภาพ ให้แข็งแรงaTon
ประเพณีวันเข้าพรรษาmild
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
อาเซียนDonus
การวาดภาพสีนำ้lovepop-123456
อาเซียนmikekung02
ลดความอ้วนสูตรนางเอก 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์yuy
ปรากฏการณ์ธรรมชาติMin-Mintra
ไลน์ โรงเรียนศรัทธาฯ

ติดต่อ สอบถาม

poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก

  

   เว็บบอร์ด >> >>
ซีซั่นไบโพลาร์ 3 แต้มเกมตึงจัด  VIEW : 96    
โดย สส

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 232
ตอบแล้ว : 17
เพศ :
ระดับ : 12
Exp : 76%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 84.17.39.xxx

 
เมื่อ : พฤหัสบดี ที่ 2 เดือน มีนาคม พ.ศ.2566 เวลา 11:49:36   

ใจผมอ่ะอยากดูและเขียนถึงหลายๆทีมแต่ในเมื่อเตะเวลาชนกันมันก็ต้องไปจบที่คู่ทีมรักอย่าง ลิเวอร์พูล พบกับ วูลฟ์แฮมป์ตัน โดยปริยาย

ก่อนหน้านั้นสลับดูคู่ อาร์เซนอล ที่คิกออฟก่อน 15 นาทีและเห็น เอฟเวอร์ตัน ของ ชอน ไดซ์ เตรียมตัวรับมือมาอย่างดียัน 0-0 เอาไว้จนเกือบจบครึ่งแรก

จะเรียกว่ายันก็ไม่เต็มปากเพราะช่วงนั้น “ท๊อฟฟี่” มีโอกาสทำประตูมากกว่า “ปืนใหญ่” ด้วยซ้ำจากการยืนรับกันแน่นหน้าเขตโทษแต่ยามเผลอโต้กลับเล่นเอาแฟนบอลนั่งเครียดกันเป็นแถว

จังหวะเสียประตูของทีมเยือนออกจะเหลือเชื่อเพราะการยืนแพ็คหน้าเขตโทษใครได้บอลโดนตามติดตลอดแต่ประตูปลดล็อกก่อนพักครึ่ง 5 นาทีต้องบอกว่า วิตาลี่ มิโคเลนโก้ ดันไปพะวง มาร์ติเนลลี่ เลยยืนประกบ ซาก้า ห่าง 2-3 หลา

ลูกยิงผีจับยัดด้วยเท้าขวาข้างไม่ถนัดเป็นการทำลายกำแพงแนวรับของ เอฟเวอร์ตัน ที่โดนแล้วไหลแพ้เละ 4-0

3 แต้มที่ทำให้บรรยากาศผ่อนๆลงมาจากการหนี แมนฯซิตี้ ออกไปเป็น 5 แต้มและเป็นการตบๆสถานการณ์ให้กลับมาสู่สภาวะปกติหลังก่อนหน้านี้แพ้ “เรือใบ” แอบเป๋ไปอยู่พักนึง

ครับตัดกลับมาที่ แอนฟิลด์....แฟน “หงส์แดง” เครียดกว่าแถมเครียดอยู่นานมาก เครียดทั้งรูปเกมที่ขึ้นลำบากหาโอกาสยิงสวยๆน้อยมาก เป็นสิ่งที่เราคาดไว้อยู่แล้วกับการเจอ วูลฟ์แฮมป์ตัน

จึงออกจะเหลือเชื่อไปหน่อยที่จู่ๆกลับมาได้ถึง 2 ประตูภายในเวลาห่างกันเพียง 4 นาที!!

ที่ต้องขยี้ตารัวๆคือในสภาพที่ ลิเวอร์พูล ดูเปราะบางและไม่มั่นคงในแต่ละเกมที่ลงเล่นแต่หลังจบเกมนี้กลับเก็บคลีนชีตได้ 4 นัดติดต่อกันและกระโจนขึ้นมาอยู่ที่ 6 ตามหลัง สเปอร์ส ซึ่งอยู่อันดับ 4 แค่ 6 แต้ม (และมีอีกเกมในมือ)

เป็นสถานการณ์ที่แปลกๆและสับสนในหมู่ เดอะ ค็อป คือเหมือนเราจะตามด่าตามบ่นทีมตัวเองมารัวๆแบบไม่มีพักแต่ในเชิงสถิติตัวเลขกลับสวนทางกัน

แม้เกมที่ แอนฟิลด์ จะยังเป็นตัวแบกทีม (เทียบกับการกวาดไป 27 คะแนนในบ้านแต่นอกบ้านแค่ 12) แต่เรียนตามตรงวันนี้ วูลฟ์แฮมตัน ถ้ามีแต้มออกจาก แอนฟิลด์ ก็ไม่น่าเกลียดเลย

ช่วงที่ทั้งคู่เกมตึงๆ 0-0 เชื่อว่าหลายคนมีคิดแว่บๆในใจอยู่บ้างว่าถ้านักเตะเจ้าถิ่นคนไหนงัดลูกเหวอโดน “หมาป่า” ยิงขึ้นนำเมื่อไหร่ก็เตรียมคาบ้านเมื่อนั้น

คือ วูลฟ์ เล่นบอลแบบมีทรงมีเทคนิคตามสไตล์ ช่วงเวลาที่ ลิเวอร์พูล เคยพีคๆขุมกำลังเต็มสูบปีสองปีก่อนเจอกันยังเหนื่อย

แล้วดูสภาพกลางวันนี้ไม่มีทางเทียบได้เลยกับการเปลี่ยนแกนบอลของ เนเวส หรือการเอาตัวรอดของ นูเนส (ที่ครึ่งแรกกระชากหลบ 3-4 ตัวแหวกทะลุง่ายๆ)

“หงส์แดง” ไม่มีกลางตัวสร้างสรรค์เกมมีแต่ตัวตัดเกมซะ 2 และตัวคืนหลังอีก 1 ทำให้การขึ้นเกมจะเอียงด้านข้างซะเป็นส่วนใหญ่

ซึ่งการออกเน้นด้านข้างไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในการรับมือของพวกมนุษย์หมาป่าเลย

ความน่าอึดอัดจนแข้งขาเราต้องขยับเกร็งไปมาเมื่อ ลิเวอร์พูล ต้องตั้งเกมจากหน้าประตูตัวเอง อลิสซอน เก็บบอลไว้กับตัวนานเท่าไหร่หัวใจเต้นแรงขึ้นเท่านั้น

ด้วยความที่กลางไม่มีตัวพลิกบอลหรือกล้าทำอะไรกับบอล แนวรับทั้ง 4 และโดยส่วนใหญ่กรรมตกมาอยู่ที่แบ็ค 2 ข้างที่ต้องสาดบอลทิ้งแบบไร้หางเสือ

สาเหตุหลักคือไม่ไว้ใจแดนกลางและแต่ละคนภาษากายสีหน้าสีตาไม่พร้อมพลิกบอลซึ่งสถานการณ์แบบนี้ทุกคนคิด ธิอาโก้ ที่สุดแล้ว

ดังนั้นต้องขอบคุณ ดิโอโก้ โชต้า ที่มีซีนน้อยแต่โผล่มาทีทรงพลังทั้งมีส่วนกับลูกที่ถูก VAR ริบหรือแอสซิสต์ให้ ฟาน ไดคจ์ โขกพังประตูปลดล็อกที่ทำให้โฉมหน้าของเกมนี้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

การสัมผัสบอลน่าจะหนแรกของ กัคโป ทำชิ่งให้ ชิมิกาส ลากไปแอสซิสต์ให้ โม ซาลาห์ เป็นการเข้าทำสวยๆในรูปแบบทีมเวิร์คที่เราอยากเห็นที่สุดในเวลานี้

สำหรับคนที่ไม่มีโอกาสได้ดูเกมวันนี้ บอกได้ว่า TAA เล่นดีผิดหูผิดตา เกมรับดีขึ้นชัดเจน ในขณะที่การขับเคลื่อนในเกมรุกเนียนกริบ เรียกว่าลงสนามวันนี้้ความกระหายและมุ่งมั่นมาเต็มมากๆ

ในขณะที่ ฟาบินโญ่ หวาดเสียวเกือบถูกไล่ออกแต่โดยรวมดีขึ้น (นิดหน่อย) จากสภาพของรถซาเล้งขยับขึ้นมาเป็นมอไซค์จ่ายตลาด ทางบอลเริ่มมาแต่ความพรวดพราดยังไม่หายไปไหน

ลืมไม่ได้คือในสภาพทีม ลิเวอร์พูล ที่หันไปทางไหนไม่มีตัวหวือหวาหรือทะลุทะลวงแบบมันๆแต่ ณ เวลานี้ ดาร์วิน นูนเญซ เป็นคนที่ทำให้ เดอะ ค็อป ได้ตื่นตาตื่นใจกับการเลี้ยงกินตัวและการมีส่วนร่วมกับเกมอย่างต่อเนื่อง

ครับการเก็บคลีนชีตในลีก 4 นัดติดแต่เกมเดียวถูก เรอัล มาดริด ส่อง 5 ลูกบอกเราได้อย่างนึงคือการจบสกอร์ของนักเตะระดับโลกกับ 4 ทีมที่ “หงส์แดง” เจอมา (เอฟเวอร์ตัน, นิวคาสเซิ่ล, พาเลซ และ วูลฟ์) มันมีความต่างกันค่อนข้างเยอะ

ฉะนั้นแล้วผมมองว่า “แดงเดือด” วันอาทิตย์นี้ ลิเวอร์พูล มีโอกาสถูกล่อลวงให้เปิดหน้าแลกจนแผลที่ยังไม่หายดีอย่างแนวรับถูกเจาะได้ง่ายๆเหมือนที่ “ราชัน” จัดนิทรรศการไปเมื่อกลางสัปดาห์ก่อน

ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องไม่ลืมว่าชั่วโมงนี้เกมรุกฉาบฉวยน้อยจังหวะของ แมนฯยูฯ กำลังขายดิบขายดีจัดๆและเพิ่งบรรเลงท้ายเกมใส่ เวสต์แฮม ใน เอฟเอ คัพ มาหมาดๆ 3-1

ครับผมเชื่อว่ากราฟของ “หงส์แดง” จะยังขึ้นลงสลับฟันปลาชนิดถูไถให้จบฤดูกาลนี้แบบบอบช้ำน้อยที่สุด

แต่สัญญาณดีๆที่อยากชื่นชมคือ reaction ของความหิวกระหายหลังโซว์ห่วยเกมเสมอกับ พาเลซ ที่วันนี้ชดเชยเป็น 3 แต้มสวยๆประเดิมเดือนมีนาคม....

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufabet