---------------------------------------------------------------------------------------------------------
แทงบอลออนไลน์ ฟรีเครดิต ไม่ต้องฝาก
- สมัคร แทงบอล ราคาน้ำดีที่สุด
- เป็นเว็บของ UFABET มั่นคง ปลอดภัยชัวร์
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
"อานนท์บอกว่า ที่เป็นกังวลกันมากเวลานี้ก็คือ การที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้น นอกจากทำให้เกิดการละลายของน้ำแข็งที่ขั้วโลก และที่เกาะกรีนแลนด์ในมหาสมุทรแอตแลนติกมากขึ้น
ส่งผลต่อเนื่องให้ระดับน้ำทะเลหลายแห่งทั่วโลกสูงขึ้น
ปรากฏการณ์ดังว่า ยังทำให้น้ำในมหาสมุทรทุกแห่งเกิดการระเหยมากขึ้น จนล่าสุดประมาณการกันไว้ว่า หากสภาพเช่นนี้ยังดำเนินต่อไป อีกหลายปีข้างหน้า ระดับน้ำทะเลในทุกมหาสมุทรทั่วโลก อาจมีระดับสูงขึ้นไม่น้อยกว่า 1 เมตร
การที่ระดับน้ำทะเลหลายแห่งทั่วโลกหนุนสูงถึงขั้นนั้น แม้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของทวีปยังไม่น่ากังวล แต่บริเวณชายฝั่งหลายแห่งน่าเป็นห่วง ซึ่งในที่นี้มีกรุงเทพมหานครรวมอยู่ด้วย เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ลุ่มต่ำ
ดร.อานนท์บอกว่า สำหรับเมืองไทยพื้นที่ชายฝั่งแถบอันดามัน ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นกว่าฝั่งอ่าวไทยเล็กน้อย เพราะมีปัจจัยในเรื่องลมและระดับความเค็มของน้ำทะเล
กล่าวคือ ระดับน้ำทะเลฝั่งอ่าวไทยขึ้นอยู่กับลมมรสุม ช่วงลมมรสุมตะวันออกจะพัดพาเอาน้ำเข้ามาในอ่าวไทยมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติ แต่เมื่อถึงช่วงฤดูลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ กระแสลมจะฉุดเอาน้ำทะเลออกไปที่อื่น
ระดับความเค็มของน้ำทะเลก็มีผลต่อระดับความสูงของน้ำทะเลเช่นกัน ทะเลแถบไหนที่มีฝนชุกและตกหนัก น้ำฝนซึ่งเป็นน้ำจืดจะมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำเค็มในทะเล จึงลอยตัวอยู่ด้านบนของน้ำทะเล ทำให้น้ำทะเลบริเวณนั้นเอ่อท่วมพื้นที่ชายฝั่งสูงกว่าที่ควรจะเป็น อย่างน้อยประมาณครึ่งเมตร
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสริมในเรื่องการทรุดตัวของแผ่นดิน ตะกอนเลนแถบชายฝั่ง และการผันน้ำจากลำน้ำสายหลัก ซึ่งล้วนมีส่วนเพิ่มผลกระทบต่อทรัพยากรน้ำทั้งสิ้น
“ชายฝั่งทะเลไม่เคยนิ่ง มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มีหลายอย่างที่ทำให้สภาพความสมดุลของชายฝั่งทะเลเปลี่ยนไป ไม่ว่าคลื่นลมในทะเล การพัฒนาพื้นที่ชายฝั่ง หรือแม้แต่การผันน้ำจากลำน้ำสายหลักให้ไหลแรงขึ้น เพื่อเร่งระบายไม่ให้น้ำท่วมขังในบางพื้นที่ ทำให้เกิดตะกอนเลนเพิ่มขึ้น เป็นต้น”
รวมความแล้ว ดร.อานนท์สรุปว่า ถ้าโชคร้ายทุกปัจจัยลบที่ว่ามาเจอกันโดยบังเอิญอย่างพร้อมเพรียง ผลก็คือ บริเวณซึ่งได้รับผลกระทบ ย่อมเกิดความเสียหายย่อยยับในเชิงเศรษฐกิจ
ดังนั้น การจะรับมือกับปัญหาโลกร้อนส่งผลกระทบต่อทรัพยากรน้ำ สิ่งแรกที่ควรทำ ก็คือ ต้องหาวิธีพัฒนาการใช้น้ำผิวดินและใต้ดินร่วมกัน สร้างระบบฐานข้อมูลเรื่องน้ำอย่างเชื่อมโยง ปรับปรุงระบบส่งน้ำของกรมชลประทาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำของประชาชน และสร้างระบบเตือนภัยพิบัติจากน้ำไว้ล่วงหน้า เป็นต้น"
|