THE BIG SHORT เป็นหนังเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ที่ผลิตมาจากความจริง ประเด็นนี้ชี้แจงกลไกทั้งหมดทั้งปวงเกี่ยวกับวิกฤตฟองสบู่เมื่อ 11 ปีกลาย โดยมีต้นกำเนิดจากสินเชื่อซับไพรม์ อเมริกา ในตอนนั้น นักลงทุนแห่กันลงทุนในสินเชื่อซับไพรม์ซึ่งเป็นสินเชื่อไร้คุณภาพ โดยไม่มีการสำรวจข้อมูลอย่างละเอียดก่อนซื้อ
ทุกคนซื้อสินเชื่อซับไพรม์ด้วยความเชื่อถือที่ว่าใครๆเขาก็ซื้อกัน คุณ Michael Burry ยอดเยี่ยมในผู้ที่ไม่เชื่ออย่างนั้น เขาตกลงใจทำความตกลงจำหน่ายอนุพันธ์กับสถาบันการเงิน โดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าสินเชื่อซับไพรม์เบี้ยวหนี้สิน เขาจะเห็นผลทดแทนอย่างมากมาย
ท้ายที่สุด วิกฤตฟองสบู่สินเชื่อซับไพรม์ก็เกิดขึ้น ทำให้บริษัทอย่าง Lehman Brothers, Bear Stearns ล้มละลาย ซึ่งมีผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจทั้งโลก ที่น่าดึงดูดเป็น เมื่อเร็วๆนี้ คุณ Michael Burry ได้ออกมามีความคิดเห็น เกี่ยวกับฟองสบู่ที่มีทิศทางจะเกิดขึ้นอีกในลักษณะเดียวกันกับครั้งที่แล้ว
อันดับแรก พวกเรามาทำความรู้จักวิกฤตซับไพรม์กันก่อน เวลานี้ ราคาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯสูงมากขึ้นอย่างสม่ำเสมอ สถาบันการเงินปลดปล่อยกู้เพื่อที่พักที่อาศัยก็เลยโตระเบิด นักลงทุนแห่กันมาเก็งกำไร พอเพียงเรื่องเป็นแบบงี้ สถาบันการเงินหัวหมอเลยสร้างสรรค์ หลักทรัพย์ CDOs (Collateralized Debt Obligations) ขึ้นมา รวมทั้งเสนอขายให้แก่นัมายากลงทุน
ซึ่ง CDOs จะนำสินเชื่อเพื่อที่อยู่ที่อาศัยคุณภาพดี มาขายรวมกันกับ สินเชื่อไม่มีคุณภาพอย่างซับไพรม์ เมื่อสินเชื่อไร้คุณภาพมีที่ระบาย แบงค์ก็พากันปลดปล่อยกู้สินเชื่อไร้คุณภาพเพิ่มมากขึ้น ผลที่ได้ก็คือ ระเบิดเวลาฟองสบู่ ที่ท้ายที่สุดก็ได้แตกลงในปี 2008 ซึ่งเรื่องแบบงี้ คุณ Michael Burry มีความคิดเห็นว่ามันได้เกิดขึ้นอีกทีกับ Index Funds หรือ กองทุนรวมที่ลงทุนอ้างอิงกับดรรชนี
แล้ว Index Funds กับ CDOs มันเช่นเดียวกันยังไง เรื่องแรกเป็น การเกิดขึ้นของ Index Funds มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับ CDOs โดยคอนเซ็ปต์สำคัญๆก็คือการมัดรวมกันของหุ้นบริษัทจำนวนมากเพื่อเสนอขายให้กับนักลงทุน เพื่อเห็นภาพ พวกเราลองดูตัวอย่าง แม้พวกเราต้องการจะก่อตั้งกองทุนรวมอ้างอิงดรรชนีเมืองไทย หรือ SET
แปลว่า กองทุนรวมอ้างอิงดรรชนีจะประกอบไปด้วยจำนวนเงินลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ของเมืองไทย ดังเช่น PTT, AOT, CPALL พอเพียงเรื่องเป็นแบบงี้ การลงทุนชนิด Index Funds ก็เลยได้โอกาสบิดเบือนค่าที่จริงจริงของหลายๆธุรกิจ ทำให้นักลงทุนไม่ตรวจตราราคาแล้วก็การเสี่ยงที่จริงจริงของธุรกิจ อีกประเด็นที่คุณ Michael Burry กังวลก็คือ การเสี่ยงเรื่องสภาพคล่องของหุ้นทั่วทั้งโลก
ในที่นี้ เขายกตัวอย่างการอ้างอิงกับดรรชนี S&P 500 จากข้อมูลทางสถิติบอกว่า หุ้นในดรรชนี S&P กว่า 266 บริษัท มีมูลค่าค้าขายต่ำยิ่งกว่า 4.6 พันล้านบาทต่อหุ้น ในทุกวัน ซึ่งมองผิวเผินแล้ว จำนวนดังกล่าวข้างต้นบางทีอาจเป็นค่าที่มาก แม้กระนั้นก็ไม่สามารถที่จะเปรียบเทียบได้กับกองทุนรวมอ้างอิงดรรชนี ที่ถือทรัพย์สินกลุ่มนี้เป็นค่ารวมกันหลายล้านล้านบาท
มีความหมายว่า ถ้ากองทุนกำเนิด Panic ขายทรัพย์สินพร้อมเพียงกัน
สภาพคล่องของหุ้นในแต่ละบริษัทจะไม่เพียงพอต่อการค้าขาย
โดยคุณ Michael Burry เทียบสภาพคล่องกับโรงภาพยนต์ที่มีเพียงแต่คนแห่เข้าไปมองเพิ่มมากขึ้นวันแล้ววันเล่า แม้กระนั้นทางออกก็ยังมีทางเดียวอย่างเดิม โดยปริศนาสำคัญสำหรับหัวข้อนี้ก็คือ แล้วมันจะเกิดขึ้นเมื่อไร
คุณ Michael Burry ก็ได้ตอบกลับไปว่า “มันก็ราวกับวิกฤตฟองสบู่ทุกคราว ผมไม่รู้จักว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหน แต่ว่าที่แน่นอนยิ่งปล่อยไปนานเยอะแค่ไหน หายนะของมันก็จะยิ่งเยอะขึ้นเพียงแค่นั้น”
มองหา ลิงค์ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี ต้องที่ zonedooball.com คมชัด ไม่มีกระตุก
|