[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ติดต่อสอบถาม
blog สมาชิก
สถิติผู้เขียน blog 10 อันดับ
wave
[ มือใหม่ ]
2
admin
[ มือใหม่ ]
2
orean
[ มือใหม่ ]
2
KAT
[ มือใหม่ ]
1
yuy
[ มือใหม่ ]
1
aTon
[ มือใหม่ ]
1
fang
[ มือใหม่ ]
1
film
[ มือใหม่ ]
1
mild
[ มือใหม่ ]
1
Donus
[ มือใหม่ ]
1
บทความ blog ล่าสุดโดย
เพลงคริสต์มาสtortae
การดูแลรักษาสุภาพ ให้แข็งแรงaTon
ประเพณีวันเข้าพรรษาmild
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
อาเซียนDonus
การวาดภาพสีนำ้lovepop-123456
อาเซียนmikekung02
ลดความอ้วนสูตรนางเอก 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์yuy
ปรากฏการณ์ธรรมชาติMin-Mintra
ไลน์ โรงเรียนศรัทธาฯ

ติดต่อ สอบถาม

poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก

  

   เว็บบอร์ด >> >>
2เทพหลุดท็อป10!เว็บดังชูใครเป็นแข้งมูลค่าสูงสุดของโลก   VIEW : 334    
โดย 555

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 3302
ตอบแล้ว : 7
เพศ :
ระดับ : 46
Exp : 81%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 101.109.187.xxx

 
เมื่อ : เสาร์ ที่ 14 เดือน สิงหาคม พ.ศ.2564 เวลา 01:50:55   



แพทริค แบมฟอร์ด ระเบิดฟอร์มแข้งคมกริบหลังเหมาคนเดียวสามตุงช่วย "ยูงทอง" ลีดส์ ยูไนเต็ด บุกไล่ต้อนเก็บชัยเหนือ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า 3-0 คว้าสามแต้มเต็มพร้อมขยับแซงลิเวอร์พูลขึ้นไปรั้งอันดับที่ 3 ของตารางคะแนนโดยมี 10 แต้มเท่ากันแต่มีผลต่างประตูได้เสียดีกว่า ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ วันศุกร์ที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา

 "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลล่า คว้าชัยมาแล้ว 4 นัดรวดในเกมลีก และหากนัดนี้ไม่แพ้จะทะยานแซงขึ้นไปนำจ่าฝูงครั้งแรกในรอบ 9 ปีสำหรับลีกสูงสุดแห่งเกาะอังกฤษ

    ขณะที่ "ยูงทอง" ลีดส์ ยูไนเต็ด ผลงานไม่สู้ดีนักโดย 5 นัดมีเพียง 7 คะแนนเท่านั้น

    เริ่มเกมมาได้เพียงแค่นาทีที่ 2 เป็นทีมเยือนอย่างลีดส์ ที่เปิดเกมบุกทันที โรดริโก้ โมเรโน่ มีโอกาสซัดจบสกอร์บริเวณกรอบเขตโทษทางฝั่งขวาแต่ไปติด แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์ ที่ล้มตัวบล็อกเอาไว้ได้

    ลีดส์ ได้ลุ้นอีกครั้งนาทีที่ 4 จากการเปิดเกมบุกด้านข้างทางฝั่งซ้าย เอซกาน อลิโอสกี้ เติมขึ้นมาเปิดบอลโค้งยัดไปในเขตโทษเข้าหัว แพทริค แบมฟอร์ด ที่ได้พุ่งโหม่งเต็มๆ แต่บอลหลุดออกข้างเสาไปอย่างน่าเสียดาย

    มีใบเหลืองแรกเกิดขึ้นนาทีที่ 10 เป็นของฝั่งทีมเยือน ปาสกาล สตรูยิก ไปตัดฟาวน์หนักใส่ แจ็ค กรีลิช จนทำให้ดาวเด่นทีมชาติอังกฤษลงไปนอนกองกับพื้น พอล เทียร์นี่ย์ ผู้ตัดสินเกมนี้ให้ได้เปรียบกับวิลล่าเล่นต่อไปและมาย้อนคาดโทษ สตรูยิก หลังจากที่บอลอยู่นอกการเล่น

    นาทีที่ 12 ลีดส์ น่าจะได้ประตูขึ้นนำอย่างที่สุดเมื่อเปิดเกมบุกขึ้นมาทางฝั่งขวา แจ็ค แฮร์ริสัน จ่ายบอลให้ เอซกาน อลิโอสกี้ หลุดขึ้นไปเปิดบอลริมเส้นย้อนมาถึง โรดริโก้ โมเรโน่ ได้ตั้งป้อมแปเน้นๆ ด้วยเท้าซ้าย ไม่ถึง 10 หลา แต่กลับไปติดตัว เอซรี่ คอนซ่า ที่ยืนอยู่ถูกที่ถูกเวลาป้องกันออกหลังไว้ได้อย่างหวุดหวิด

    สิงห์ผงาด เจ้าบ้านตอบโต้กลับมาบ้างและได้โอกาสปิดสกอร์นาทีที่ 17 จาก รอสส์ บาร์คลี่ย์ ที่ตั้งป้อมซัดไกลกลางกรอบเขตโทษระยะเกือบ 30 หลาบอลพุ่งตรงเข้ากรอบประตูแต่ทิศทางไปตรงตัว อัลล็อง เมสิเยร์  รับไว้ได้ไม่พลาด

    นาทีที่ 21 ลีดส์ ตัดสินใจเปลี่ยนตัว ปาสกาล สตรูยิก ออกเหตุสุ่มเสี่ยงถูกเหลืองที่สองโดยส่ง เจมี่ แชคเคิลตัน ลงมาเล่นแทน

    ลีดส์ ยังคงบดเกมอย่างต่อเนื่องนาทีที่ 24 สจ๊วร์ต ดัลลัส เติมเกมขึ้นมาหวดไกลบอลพุ่งแรงแต่ไม่ตรงกรอบหลุดออกข้างเสาไปอีกครั้ง

    สองนาทีถัดมาโอกาสลุ้นจังๆ ของวิลล่าเกิดขึ้นจากจังหวะเบียดแย้งของ  ออลลี่ วัตกิ้นส์ ที่่เอาชนะ ลุค อายลิ่ง กองหลังลีดส์ ก่อนที่ วัตกิ้นส์ จะหลุดเข้าไปเปิดเกือบสุดเส้นหลังไปให้ มาห์มูด เทรเซเก้ต์ ที่วิ่งมาตั้งใจแปเน้นๆ แต่โดนไม่เต็มบอลยังเลยไปเข้าทาง แจ็ค กรีลิช ทางเสาไกลได้หวดเน้นๆ บอลผ่านมือ อัลล็อง เมสิเยร์ นายด่านลีดส์ไปแล้วแต่ถูก ลุค อายลิ่ง ที่ตามมาเคลียร์ได้บนเส้นประตูพอดิบพอดี เมื่อดูภาพช้าจะเห็นได้ว่าลูกบอลยังอยู่บนเส้นไม่ผ่านเข้าไปทั้งลูกทำเอา ลีดส์ รอดพ้นจากการเสียประตูไปได้อย่างหวุดหวิด

    ผ่านมาถึงนาทีที่ 37 วิลล่า เปิดเกมบุกขึ้นมาอีกครั้ง บาร์คลี่ย์ พาบอลมาตรงกรอบเขตโทษก่อนส่งให้ วัตกิ้นส์ ทางฝั่งขวาได้โยกหลอกเข้าเท้าซ้ายและหวดเน้นๆ แต่บอลก็ยังไม่ติดบล็อกแข้งยูงทองอีกครั้งอีกครา

    นาทีที่ 39 ลีดส์ ตอบโต้กลับมาบ้างและเป็น โรดริโก้ โมเรโน่ ที่ได้โอกาสซัดด้วยเท้าซ้ายระยะประมาณ 20 หลากลางกรอบเขตโทษแต่ทิศทางยังคงไม่ดีหลุดออกหลังไปไกล

    นาทีที่ 42 เจ้าถิ่นได้ลูกฟรีคิกระยะเกือบ 30 หลา รอสส์ บาร์คลี่ย์ รับหน้าที่เปิดบอลยัดเข้าไปแต่น้ำหนักแรงหลุดออกหลังไปไม่ได้ลุ้นอะไร

    จังหวะถัดมาไม่ถึงนาทีผู้ตัดสินต้องหยุดเกมตรวจสอบวีเออาร์จากจังหวะที่ แจ็ค กรีลิช ได้บอลแล้วล้มลงตรงเส้นกรอบเขตโทษพอดี ดูเหมือนว่า เอลแดร์ คอสต้า แข้งลีดส์จะไปเกี่ยวทางด้านหลัง แต่เมื่อเช็คแล้วหน้าจอมอนิเตอร์ขึ้นแจ้งว่าลูกนี้ไม่มีการฟาวน์เกิดขึ้นจึงทำให้เกมเริ่มเล่นต่อไป ท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 44 ลีดส์ เกือบได้ประตูขึ้นนำ  แจ็ค แฮร์ริสัน ได้บอลทางฝั่งขวาก่อนกระชากลากจี้แล้วเปิดเลียดเข้าไปถึง แพทริค แบมฟอร์ด ที่เบียดเอาชนะแผงหลังเจ้าบ้านแล้วได้แปเต็มๆ เท้า แต่บอลกลับหลุดเฉียดโคนเสาไปนิดเดียวเท่านั้น

    จบครึ่งเวลาแรกยังไม่มีสกอร์เกิดขึ้น แอสตัน วิลล่า เปิดบ้านเสมอ ลีดส์ ยูไนเต็ด อยู่ 0-0

    มาลุ้นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง นาทีที่ 47 ยังคงเป็นเหมือนต้นครึ่งแรกลีดส์เป็นฝ่ายครอบครองบอลและได้ลุ้นจากจังหวะที่ แจ็ค แฮร์ริสัน ได้บอลทางฝั่งขวาแล้วกระชากจี้เข้าไปซัดด้วยเท้าขวาในเขตโทษบอลพุ่งตรงกรอบแต่ยังไม่ดีพอที่จะผ่านมือ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ที่ล้อมตัวรับไว้ได้

    สองนาทีถัดมา ลีดส์  สร้างเกมรุกได้อีกครั้งบอลมาอยู่ที่ โรดริโก้ โมเรโน่ ส่งต่อให้ เอลแดร์ คอสต้า ทางฝั่งขวาก่อนเจ้าตัวจะโยกเข้าเท้าซ้ายแล้วซัดเต็มข้อบอลพุ่งไปติด รอสส์ บาร์คลี่ย์ กระดอนออกไปพ้นเขตอันตราย

    นาทีที่ 52 แอสตัน วิลล่า น่าจะได้ประตูขึ้นนำอย่างเป็นที่สุดจากความสามารถเฉพาะตัวของ แจ็ค กรีลิช ที่กระชากบอลจากหน้าปากกรอบเขตโทษแดนตัวเองแล้วพลิกหลอกหลบผ่านแข้งลีดส์ถึงสามคนก่อนที่ กรีลิช จะพาบอลลากต่อไปทางเสาไกลแล้วกดเน้นๆ แต่ดันไปติดเซฟของ เมสิเยร์ ที่ยังยืนปิดมุมดีป้องกันเอาไว้ได้

    นาทีที่ 55 กลับกลายเป็น ลีดส์ ทีมเยือนที่ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะทำเกมสุดสวยบอลมาอยู่ที่ แจ็ค แฮร์ริสัน ทางริมเส้นด้านข้างฝั่งซ้ายก่อนจ่ายตัดแผงหลังวิลล่าเลยไปถึง โรดริโก้ โมเรโน่ ที่แต่งบอลด้วยเท้าซ้ายก่อนซัดไปติดเซฟ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ แต่บอลกระดอนไปเข้าทาง แพทริค แบมฟอร์ด ได้ซ้ำดาบสองระยะไม่ถึง 5 หลาไม่เหลือซาก

    เคลื่อนมาถึงนาทีที่ 64 เกมหยุดเพื่อตรวจสอบวีเออาร์อีกครั้ง จากจังหวะปะทะกันของ ไทรอน มิงส์ กองหลังวิลล่า กับ แพทริค แบมฟอร์ด ศูนย์หน้าลีดส์ ในเขตโทษของเจ้าบ้านแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นผู้ตัดสินให้เริ่มเล่นต่อไป

    ยูงทองผยองขนอีกครั้ง นาทีที่ 67 เมื่อขยับนำห่างเป็น 2-0 เอลแดร์ คอสต้า ส่งบอลให้ แพทริค แบมฟอร์ด ได้พลิกตัวตรงกลางกรอบเขตโทษวิลล่าระยะประมาณ 20 หลาก่อนเจ้าตัวจะได้ตั้งป้อมปั่นโค้งด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งผ่าน มาร์ติเนซ ที่ทำได้เพียงยืนมองด้วยสายตาเสียบใต้คานเข้าไปอย่างสวยงาม นับเป็นประตูที่สองของ แบมฟอร์ด ในเกมนี้

    นาทีที่ 71 ยังคงเป็นลีดส์ที่ทำเกมบุกได้มากกว่า แจ็ค แฮร์ริสัน เปิดบอลโด่งยัดไปในเขตโทษวิลล่าแต่โดน ไทรอน มิงส์ โหม่งเคลียร์ออกมาแต่บอลยังไม่พ้นเขตอันตรายไปเข้าทาง มาร์เตอุสซ์ คลิช ที่วิ่งเข้ามาหวดเน้นๆ บอลตรงกรอบแต่ไม่ผ่านมือ มาร์ติเนซ ที่ล้มตัวคว้าบอลไว้ได้

    นาทีถัดมาลีดส์ได้ลุ้นประตูที่สามอีกครั้งเมื่อ โรดริโก้ โมเรโน่ แย้งบอลได้จากเท้า แจ็ค กรีลิช ก่อนส่งต่อให้ สจ๊วร์ต ดัลลัส แล้วจ่ายไปให้ เอลแดร์ คอสต้า ทางฝั่่งขวาก่อน คอสต้า จะตบกลับคืนมาให้ ดัลลัส วิ่งเข้ามาแปเน้นๆ แต่น้ำหนักเบาเกินไปบอลไหลไปเข้ามือ มาร์ติเนซ อีกครั้งเรียกได้ว่าเกมนี้นายด่านเจ้าถิ่นต้องทำงานอย่างหนัก

    นาทีที่ 74 ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้ประตูนำห่างเป็น 3-0 จากทักษะและความเหนือชั้นของ แพทริค แบมฟอร์ด ที่รับบอลจาก เอลแดร์ คอสต้า ก่อนแตะบอลด้วยเท้าขวาแล้วพลิกยิงเร็วด้วยเท้าซ้ายกลางวงล้อมของแข้งวิลล่าถึงสี่คนบอลโค้งเบียดเสาเข้าไปอย่างสุดบรรยายทำเอาแข้งเจ้าถิ่นได้แต่ยืนตะลึงกันเลยทีเดียว และนับเป็นการทำแฮตทริกของ แบมฟอร์ด ในเกมนี้อีกด้วย

    10 นาทีถัดมา ลีดส์ สร้างโอกาสจดสกอร์ได้อีกครั้ง ราฟินญ่า ได้วิ่งเข้ามาหวดเน้นๆ กลางกรอบเขตโทษแบบไร้ตัวประกบแต่เจ้าตัวกดไม่ลงบอลเหินข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

    นาทีที่ 86 แพทริค แบมฟอร์ด เกือบทำประตูที่สี่ของตัวเองในเกมนี้เมื่อได้โขกเน้นๆ จากลูกเปิดของ เจมี่ แชคเคิลตัน ทางฝั่งขวาแต่ทิศทางไม่ห่างมือ มาร์ติเนซ นายประตูวิลล่าที่ยืนรับไว้ได้ไม่ยากเย็น

    นาทีที่ 90 วิลล่า เกือบตีไข่แตกเมื่อได้โต้กลับขึ้นมาบ้างบอลมาอยู่ที่ รอสส์ บาร์คลี่ย์ ก่อนเจ้าตัวแทงบอลไปให้ ออลลี่ วัตกิ้นส์ ได้ตะบันเน้นๆ แต่บอลก็ยังหลุดออกด้านข้างเสาไปอีกครั้ง

    จบเกม ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่โชว์ฟอร์มแจ่มบุกมาทุบ วิลล่า คาบ้าน 3-0 หยุดสถิติสวยหรูของเจ้าถิ่นกับชัยชนะ 4 เกมรวดเอาไว้ได้ ส่งผลให้ลีดส์ ที่คว้าสามแต้มขยับอันดับแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปอยู่ที่ 3 ของตารางคะแนนด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า ขณะที่ แอสตัน วิลล่า รั้งรองจ่าฝูงตามเดิม


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    แอสตัน วิลล่า (4-2-3-1) : เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ - แม็ทธิว แคช, เอซรี่ คอนซ่า, ไทรอน มิงส์, แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์ (เบอร์ทราน ตราโอเร่ น.67) - ดั๊กลาส ลุยซ์, จอห์น แม็คกินน์ - มาห์มูด เทรเซเก้ต์, รอสส์ บาร์คลี่ย์, แจ็ค กรีลิช - ออลลี่ วัตกิ้นส์
    ผู้จัดการทีม : ดีน สมิธ

    ลีดส์ (4-1-4-1) : อัลล็อง เมสิเยร์ - ลุค อายลิ่ง, โรบิน คอช, เอซกาน อลิโอสกี้ , สจ๊วร์ต ดัลลัส -  ปาสกาล สตรูยิก (เจมี่ แชคเคิลตัน น.21) - เอลแดร์ คอสต้า (ราฟินญ่า น.83), มาร์เตอุสซ์ คลิช, โรดริโก้ โมเรโน่ (ปาโบล เอร์นานเดซ น.79), แจ็ค แฮร์ริสัน - แพทริค แบมฟอร์ด
    ผู้จัดการทีม : มาร์เซโล่ บิเอลซ่า

    ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์

เพิ่มเติม: 
albertablondecattle.com