แสดงให้เห็นถึงการเป็นนักเตะคนสำคัญของทัพ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ทีมชาติเบลเยียม สำหรับ เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์วัย 29 ปีจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเขาสลัดอาการบาดเจ็บกลับมาลงสนามเป็นตัวสำรองพลิกเกมทั้งยิงทั้งจ่ายให้ เบลเยียม แซงชนะ เดนมาร์ก 2-1 ในเกมยูโร 2020

เดอ บรอยน์ เริ่มต้นค้าแข้งกับ เกงค์ ในลีกบ้านเกิด เมื่อปี 2008 ก่อนย้ายมาเล่นกับ เชลซี แต่ล้มเหลว จึงหนีไปอยู่กับ แวร์เดอร์ เบรเมน, โวล์ฟบวร์ก และโด่งดังสุดขีดกับ แมนฯซิตี้ ด้วยการเป็นแกนหลักของทีมตั้งแต่ช่วงปี 2015 ถึงปัจจุบัน จนถูกยกย่องให้เป็นมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดของโลกในเวลานี้

ขณะที่ในการรับใช้ทีมชาติ เดอ บรอยน์ ติดทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2010 จนถึงปัจจุบันลงเล่นไปแล้ว 81 นัด ยิงได้ 22 ประตู แต่แทบไม่น่าเชื่อว่า ด้วยฝีเท้ายอดเยี่ยมระดับโลกของเขา ยังไม่สามารถพาทีมชาติเบลเยียมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ได้เลย

อีกทั้งเบลเยียมยังมีแรงกิ้งฟีฟ่าเป็นอันดับ 1 ของโลก แต่กลับถูกมองเป็นเพียงทีมเสือกระดาษเท่านั้นจากการไร้โทรฟี่ โดยผลงานดี่สุดคือการคว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2018 ส่วนในยูโรเคยทำผลงานดีสุดด้วยการคว้าอันดับ 3 เมื่อปี 1972 หรือเมื่อ 49 ปีที่แล้ว…

ดังนั้นจึงเป็นภารกิจสำคัญที่สุดในชีวิตค้าแข้งของ เควิน เดอ บรอยน์ ในการลบคราบเสือกระดาษสู่การเป็นปีศาจแดงแห่งยุโรปอย่างแท้จริงตามฉายาในศึกยูโร 2020 ครั้งนี้!

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ พนันบอล