[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ติดต่อสอบถาม
blog สมาชิก
สถิติผู้เขียน blog 10 อันดับ
wave
[ มือใหม่ ]
2
admin
[ มือใหม่ ]
2
orean
[ มือใหม่ ]
2
KAT
[ มือใหม่ ]
1
yuy
[ มือใหม่ ]
1
aTon
[ มือใหม่ ]
1
fang
[ มือใหม่ ]
1
film
[ มือใหม่ ]
1
mild
[ มือใหม่ ]
1
Donus
[ มือใหม่ ]
1
บทความ blog ล่าสุดโดย
เพลงคริสต์มาสtortae
การดูแลรักษาสุภาพ ให้แข็งแรงaTon
ประเพณีวันเข้าพรรษาmild
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
อาเซียนDonus
การวาดภาพสีนำ้lovepop-123456
อาเซียนmikekung02
ลดความอ้วนสูตรนางเอก 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์yuy
ปรากฏการณ์ธรรมชาติMin-Mintra
ไลน์ โรงเรียนศรัทธาฯ

ติดต่อ สอบถาม

poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก

  

   เว็บบอร์ด >> >>
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดช่วงท้ายเกมอีกครั้งหลังจากโดน เอซี มิลาน  VIEW : 857    
โดย K

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 54
ตอบแล้ว : 3
เพศ :
ระดับ : 6
Exp : 10%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 193.37.32.xxx

 
เมื่อ : เสาร์ ที่ 20 เดือน มีนาคม พ.ศ.2564 เวลา 22:40:02   

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดช่วงท้ายเกมอีกครั้งหลังจากโดน เอซี มิลาน บุกมาตีเสมอในช่วงทดเจ็บ ทำให้สกอร์จบลง 1-1 ในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา
เกมนี้ "ผีแดง" เกือบต้องพบกับหายนะตั้งแต่ 45 นาทีแรก แต่ความเที่ยงตรงของ "วีเออาร์" ทำให้พวกเขาไม่ต้องตามหลัง "รอสโซเนรี่" สองประตู ขณะเดียวกันในครึ่งหลัง อาหมัด ดิยัลโล่ โชว์ของเด็ดของดีเมืองแมนเชสเตอร์ ด้วยการทำประตูให้ทีมขึ้นนำ และเป็นประตูแรกของเขากับทีมชุดใหญ่ด้วย

น่าเสียดายที่งานเลี้ยงสำหรับ ดิยัลโล่ จบลงไม่ค่อยสวยหรูนัก เพราะ มิลาน มาได้ประตูตีเสมอในช่วงทดเจ็บสองนาที ทำให้พวกเขาได้อะเวย์โกลกลับไปยังเมืองมิลาน ส่งผลให้เกมนัด 2 ที่ดินแดนมะกะโรนี "ผีแดง" ต้องพยายามยิงประตูให้ได้ เพราะหากสกอร์จบลงที่ 0-0 พวกเขาจะตกรอบทันที จากกฎประตูทีมเยือน !!

1. ดิยัลโล่แจ้งเกิดเต็มตัว

เกมนี้ อาหมัด ดิยัลโล่ ได้รับโอกาสในช่วงครึ่งหลังเนื่องจาก อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล มีปัญหาบาดเจ็บทำให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จำเป็นต้องถอดเขาออกจากทีมในช่วงพักครึ่ง โดยงานนี้ ดาวเตะชาวไอวอรี่ โคสต์ ไม่ทำให้ "น้าลูกอม" ผิดหวังเลยจริงๆ

เพียงแค่ 4 นาทีที่เขาได้ลงมาสัมผัสเกมเจ้าตัวก็สร้างชื่อได้อย่างสุดยอดด้วยการโหม่งบอลอย่างเหนือชั้นจากการแอสซิสต์ของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ซึ่งแน่นอนว่านี่เป็นการโหม่งที่เต็มไปด้วยไหวพริบปฏิภาณอย่างแท้จริง

จังหวังดังกล่าวเห็นได้ชัดว่า ดิยัลโล่ หันหลังให้ประตู แต่ด้วยสัญชาตญาณเขาตัดสินใจโหม่งเสยข้ามหัว จานลุยจิ ดอนนารุมม่า นายทวารที่มีส่วนสูงเกือบสองเมตร เข้าประตูไปอย่างงดงาม นอกจากจะเป็นประตูนำแล้ว ยังเป็นประตูแรกในสีเสื้อ "ปีศาจแดง" ชุดใหญ่ด้วย

ประตูนี้ทำให้ ดิยัลโล่ เป็นนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด ที่อายุน้อยที่สุดอันดับ 4 (18 ปีกับ 243 วัน) ที่ยิงประตูได้ในฟุตบอลถ้วยยุโรป และยังเป็นแข้งอายุน้อยที่สุดที่ไม่ใช่ชาวอังกฤษ ที่ซัดประตูในเกมฟุตบอลถ้วยยุโรปให้ "ผีแดง" ด้วย
 
2. เฮนเดอร์สัน-แม็กไกวร์กับค่ำคืนที่ไม่น่าจดจำ

ดีน เฮนเดอร์สัน มีโอกาสดีเหลือเกินที่จะได้ยึดตำแหน่งมือ 1 ยาวๆ หลังจากที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงที่ ดาบิด เด เคอา ต้องไปทำหน้าที่พ่อบ้านใจกล้าดูแลแฟนสาวและทายาทคนแรกของพวกเขา

ฟอร์มการเล่นในเกมกับ "ปีศาจแดงดำ" ของเขาก็ถือว่าใช้ได้ เพราะมีจังหวะช่วย เฮนเดอร์สัน โชว์ป้องกันประตูได้ดีเยี่ยม และดูเหมือนว่าเกมนี้เขาจะสามารถเก็บคลีนชีตได้อีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่ในช่วงทดเจ็บสองนาที ซิมง เคียร์ สวมบทฮีโร่โหม่งตีเสมอได้สำเร็จ ทำให้ "ผีแดง" ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เป็นรองเนื่องจากเสียอะเวย์โกล

สาวก "เร้ด อาร์มี่" พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า จังหวะแบบนี้หากเป็น เด เคอา น่าจะสามารถปัดบอลออกไปได้ แต่ก็อย่างว่าตอนนี้ โกลชาวสแปนิช ก็ไม่ได้อยู่ในฟอร์มเทพเหมือนแต่ก่อน และไม่แน่ต่อให้เป็นเขายืนเฝ้าเสาก็ใช่ว่าจะป้องกันได้ !

สำหรับนักเตะอีกรายที่อยากจะลืมค่ำคืนนี้ไปก็คงหนีไม่พ้น แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เพราะเจ้าตัวมีโอกาสดีเยี่ยมที่จะสร้างความได้เปรียบให้กับทีมด้วยการทำประตูขึ้นนำในครึ่งแรก แต่น่าเหลือเชื่อที่เขาดันยิงประตูโล่งๆ ไปชนเสาซะงั้น

ต้องบอกเลยว่านี่คือจังหวะสำคัญที่สามารถเปลี่ยนเกมได้เลย เพราะในช่วงเวลานั้น แมนฯ ยูไนเต็ด โดย มิลาน กดดันอย่างหนัก จนกระทั่งทีมมาได้ลูกเตะมุม และ แม็กไกวร์ ได้โอกาสทองฝังเพชรที่จะส่งบอลซุกก้นตาข่าย แต่เจ้าตัวเลือกซัดบอลระยะไม่กี่หลาชนเสาอย่างน่าเหลือเชื่อ

งานนี้หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ายิงเข้าประตูยังง่ายกว่ายิงชนเสา แต่ระดับกัปตันทีม "ปีศาจแดง" ไม่ชอบทำอะไรง่ายๆ อยู่แล้ว !!!

3. มาร์กซิยาลก็ยังคงเป็นมาร์กซิยาลเหมือนเดิม

การขาดความสม่ำเสมอและการรักษาฟอร์มให้คงเส้นคงวายังคงเป็นหนึ่งในเรื่องที่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ต้องปรับปรุงแก้ไขเป็นการด่วน เพราะในเกมนี้เขาแสดงผลงานได้น่าผิดหวังมากๆ โดยเฉพาะการสร้างโอกาสในการยิงประตู

ย้อนกลับไปเมื่อ 4 วันก่อน กองหน้าชาวฝรั่งเศส ได้รับคำสรรเสริญเยินยอจากทั่วทุกสารทิศหลังจากที่เจ้าตัวระเบิดฟอร์มเทพนำ "ปีศาจแดง" บุกไปดับซ่า "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ในเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์

อย่างไรก็ตามในเกมกับ "รอสโซเนรี่" มาร์กซิยาล กลับคืนสู่ฟอร์มที่คุ้นเคยอีกครั้งเพราะเจ้าตัวเล่นได้น่าผิดหวังมากๆ โดยที่ไม่มีศักยภาพในการกดดันเกมรับของ เอซี มิลาน ได้เลย มีแค่ช่วงต้นเกมที่ "น้องหมาก" พักอกเอาบอลลงในเขตโทษแล้วตวัดยิง แต่ก็ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงสำหรับ ดอนนารุมม่า ในการป้องกัน

ช่วงที่เหลืออยู่ในครึ่งแรก มาร์กซิยาล ไม่ได้ทำประโยชน์เป็นชิ้นเป็นอันให้แมนฯ ยูฯ เลยด้วยซ้ำ จนกระทั่งมาได้รับบาดเจ็บ และถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่ง ก่อนที่ ดิยัลโล่ จะลงสนามและยิงประตูได้  ตอนนี้สิ่งที่ มาร์กซิยาล ต้องทำก็คือการรักษามาตรฐานการเล่นให้คงเส้นคงวา และดูแลสภาพร่างกายให้แข็งแกร่ง เพราะหากยังเป็นแบบนี้ต่อไป อนาคตของเขามีสิทธิ์ที่จะได้ไปนั่งตบยุงอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองแบบยาวๆ หรืออาจเก็บข้าวของออกจากโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เลยก็ได้

4. วีเออาร์เที่ยงตรงแม่นยำ

เกมนี้ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเป็นทวีคูณตั้งแต่ครึ่งแรก หากวงการลูกหนังไม่มีระบบเทคโนโลยีช่วยตัดสิน หรือ "วีเออาร์" เพราะพวกเขาโดนยิงนำไปก่อนถึงสองประตู

ช่วงที่ผ่านมา "วีเออาร์" มักจะโดนวิจารณ์อย่างหนักในวงการฟุตบอลอังกฤษ เนื่องจากมีหลายจังหวะที่การตัดสินดูเหมือนไม่มีความชัดเจน ล่าสุดก็คือจังหวะที่ ฟิล โฟเด้น โดน อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ โกล เซาธ์แฮมป์ตัน เกี่ยวขาในเขตโทษ แต่ไม่มีการนำวีเออาร์มาเช็คซ้ำทำให้ "นักบุญ" รอดจุดโทษ และนายด่านของทีมก็รอดใบแดงไปด้วย

ส่วนในเกมระหว่าง แมนฯ ยูฯ กับ มิลาน ต้องบอกว่า "วีเออาร์" สามารถกอบกู้ชื่อเสียงกลับมาได้อีกครั้ง เพราะสองจังหวะที่ "รอสโซเนรี่" ยิงได้นั้น หากไม่มีเทคโนโลยีนี้คงทำให้ "เร้ด เดวิลส์" โดนนำถึง 2-0 ในช่วง 45 นาทีแรกไปแล้ว

ฉะนั้นระบบนี้ยังคงมีประโยชน์อย่างมาก เพราะทำให้เกมฟุตบอลมีความยุติธรรมมากยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีคำถามว่าทำไมในเกมฟุตบอลถ้วยยุโรปการใช้ "วีเออาร์" ค่อนข้างมีมาตรฐาน แต่ในเกมพรีเมียร์ลีก กลับตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง !!?!!

5. มิลานสมควรได้รับรางวัลตอบแทน

ผลเสมอ 1-1 สำหรับ เอซี มิลาน ต้องบอกเลยว่าสมควรอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับฟอร์มการเล่นของพวกเขาในแมตช์นี้ เพราะหากไม่นับจังหวะที่พลาดได้สองประตูเพราะโดน "วีเออาร์" ริบ ทัพ "ปีศาจแดงดำ" มีโอกาสที่จะยิงประตูอีกหลายครั้ง แต่ขาดความเฉียบคมเท่านั้น

สเตฟาโน่ ปิโอลี่ กุนซือมิลาน วางหมากมาเล่นงาน "ปีศาจแดง" ได้อย่างดีเยี่ยม และสามารถปั่นป่วนเกมรับของเจ้าบ้านได้อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วง 45 นาทีแรก แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถทำประตูขึ้นนำได้

แม้ในครึ่งหลังจะโดน ดิยัลโล่ ทำประตูขึ้นนำก็ตาม แต่ มิลาน ก็ยังคงกลับมาครองเกมได้ และสร้างโอกาสเจาะเกมรับของ แมนฯ ยูฯ ได้อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งพวกเขามาได้รับรางวัลแห่งความพยายามจากการโหม่งของ ซิมง เคียร์

งานฉลอง ดิยัลโล่ กร่อย! เจาะ 5 ประเด็น แมนยู โดนทีเด็ด มิลาน ตีเสมอทดเจ็บ สถานการณ์ในตอนนี้ต้องบอกเลยว่า "เร้ด เดวิลส์" หลังพิงฝาแล้ว เพราะเสียประตูในบ้าน แถมนัดสองต้องไปเยือน ซาน ซีโร่ และงานนี้มีความเป็นไปได้สูงที่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช จะฟิตลงเล่นให้ มิลานได้ ฉะนั้นหากเกมรับของพวกเขายังเล่นได้หละหลวมแบบนี้ โอกาสที่จะโดนเบิกประตูมีค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

กระนั้นถึง แมนฯ ยูไนเต็ด จะตกเป็นรองเรื่องกฎประตูทีมเยือน แต่ถ้าหากพวกเขาสามารถซัดประตูได้เร็วในเกมเลกสอง สถานการณ์ทุกอย่างจะกลับมาเท่ากันทันที ดังนั้นโอกาสในการผ่านเข้ารอบต่อไปของทั้งสองทีมยังคงเปิดกว้างเหลือเกิน

 

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ lsm99 agent