จากนั้นในปี พ.ศ.2555  “อเล็กซานเดอร์ อัลบอน” ได้เข้าร่วมสังกัด RedBull Junior Programme  และได้ร่วมการแข่งขันThe Eurocup Formula Renault 2.0 Series หลังจากนั้นเขาก็พยายามฝึกฝนและพัฒนาตัวเองเพื่อให้ไปถึงฝันนั่นคือ การเป็นนักขับในศึกเอฟวัน จนโชว์ฝีมือคว้ารางวัลรองแชมป์จากการแข่งขัน GP3 Series ในปี พ.ศ. 2559 และได้ก้าวขึ้นสู่การแข่งาขันระดับ Formula 2 Championship ถึง 2 ฤดูกาล โดยเริ่มต้นด้วยการสังกัดทีม ART Grand Prix และทีม The DAMS โดยจบการแข่งขันด้วยการคว้าชัยชนะ 4 ถ้วยรางวัล ในปี พ.ศ.2561

จากนั้น “อเล็กซานเดอร์ อัลบอน” ได้กลับมาเข้าร่วมสังกัด “เรด บูล” อีกครั้งในศึกเอฟวัน โดยร่วมลงแข่งให้กับทีม “สคูเดอเรีย โตโร รอซโซ่ ฮอนด้า” และก็ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น จึงทำให้ทีม “เรดบูล เรซซิ่ง ฮอนด้า” ได้ตัดสินใจดึงเขาขึ้นเป็นนักขับทีมชุดใหญ่ร่วมกับ “แมกซ์ เวอร์สแตปเพ็น” ยอดนักแข่งดาวรุ่งจากเนเธอร์แลนด์ โดยเขาเริ่มขับให้กับทีมต้นสังกัดในสนาม Belgian Grand Prix (สนามที่ 13)ในฤดูกาล 2019

“ผมเริ่มจากความชอบตั้งแต่เด็กๆ คุณพ่อเป็นช่างอยู่ในทีมแข่งรถ ผมตามพ่อไปเสมอทำให้ได้เห็นทีมงานทำงานกันในพิต (Pit) และวิ่งเล่นในพิตตั้งแต่เด็ก จากนั้นก็เริ่มลงแข่งขันรถมาตั้งแต่เด็กจนได้ขึ้นมาขับในศึกเอฟวัน มันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก มันคือฝันของผมตั้งแต่แรกเริ่มลงแข่งรถ” อเล็กซานเดอร์ อัลบอน ให้สัมภาษณ์สื่อ

“ตอนผมลงแข่งที่สนามออสเตรเลีย ผมเห็นธงชาติไทย ผมดีใจมากที่มีคนไทยมาเชียร์ ประเทศไทยมีนักกอล์ฟ และนักแบดมินตัน เป็นมือหนึ่งของโลกแล้ว ผมจะพยายามทำให้เต็มที่ เพื่อให้โลกได้รู้ว่า ประเทศไทยมีนักแข่งรถอันดับหนึ่งของโลกเช่นเดียวกัน และขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยที่ให้การสนับสนุนผม”

ในสนามแข่งรถสูตรหนึ่ง เอฟวัน (F1) ฤดูกาล 2020 ที่เพิ่งกลับมาแข่งขันหลังสถานการณ์โควิด-19 ในศึก “ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์” เมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม ที่ผ่านมา โดยสนามนี้มี  อเล็กซานเดอร์ อัลบอน นักขับลูกครึ่งไทย-อังกฤษ  ทีมเรดบูลล์ เรซซิง-ฮอนด้า มีโอกาสลุ้นขึ้นยืนบนโพเดียมของสนามนี้

สนันสนุนโดยเว็บไซต์ ทางเข้า Gclub