ในที่สุดก็เป็นวันที่แฟนๆแบดมินตันไม่อยากให้ถึงเมื่อหลิน ตัน นักตบลูกขนไก่ซูเปอร์สตาร์จากจีนได้ประกาศเลิกเล่นอย่างเป็นทางการ สร้างความตกใจให้กับแฟนๆขนไก่ทั่วโลก
หลังจากที่ตัดสินใจประกาศอย่างเป็นทางการใน Weibo สื่อโซเชียลส่วนตัวของเขาเมื่อช่วงเช้าวันที่ 4 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ว่าตัดสินใจแล้วที่จะจบอาชีพ 20 ปีของแบดมินตัน
เป็นการสิ้นสุด Four Ages of Kings หรือ 4 คิงส์ในวงการแบดมินตันโลก หลังจาก เทาฟิค ฮิดายัต จากอินโดนีเซีย , ปีเตอร์ เกด จากเดนมาร์ก และ ลี ชองเหว่ย จากมาเลเซีย ที่พึ่งเลิกไปเมื่อปีที่แล้ว
สาเหตุที่อดีตแชมป์โลก 5 สมัย ต้องประกาศเลิกเล่นนั้นเกิดจากสภาพร่างกายที่อิจโรยไปตามอายุ ทำให้ไม่สามารถงัดฟอร์มการเล่นของตนเองออกมาย่ำแย่ในช่วงหลัง โดยตกรอบแรกมา 5 รายการและผลงานในออล อิงแลนด์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเจ้าตัวยุติเพียงแค่รอบสองเท่านั้น และบวกกับสถานการณ์โควิด-19
ล่าสุดโควิด-19 ก็มาพ่นพิษอีกให้โอลิมปิกเกมส์ที่เค้าหมายมั่นปั้นมือไว้ ว่าจะทิ้งทวน ต้องเลื่อน แผนที่วางมาก็หมดกัน
ทำให้หลิน ตัน ไม่สามารถทำอันดับคว้าตั๋วโอลิมปิกแน่นอนแล้วเนื่องจาก 2 อันดับใน Race to Tokyo ของชายเดี่ยวจีนตอนนี้มี เฉิน หลง กับ ฉี ยู่ฉี ที่อันดับดีกว่า
ชื่อของเขานั้นถูกเทิร์นโปรมาตั้งแต่ปี 2000 ในการคว้าแชมป์เยาวชนชิงแชมป์เอเชีย จากนั้นเขาซิวเหรียญทองเยาวชนโลก
ครอบครัวเขาก็บอกว่า อัจฉริยะมันไม่มีจริงหรอก ไม่ว่าผมหรือนักแบดจากจีนคนอื่นๆ พวกเรามาถึงจุดนี้ได้เพราะเราซ้อมกันหนักมาก
เราผ่านการฝึกฝนมาเป็นระยะเวลาอันยาวนานยิ่งกว่าชาติอื่นๆ เราเติบโตพร้อมกับเทคนิค, แท็คติก และจิตวิทยา รวมถึงสั่งสมประสบการณ์ผ่านการแข่งขันในแต่ละเกม
ในระดับเยาวชนเขาโกยมาหมกทุกแชมป์ก่อนที่จะขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2001 ในวัยแค่ 19 ปี ก็เข้าไปชิงชนะเลิศในศึกชิงแชมป์เอเชีย แต่ก็พ่ายให้กับ เซี๊ยะ ซุนซี ซึ่งปัจจุบันเป็นเฮดโค้ชของแบดมินตันจีนในปัจจุบัน
ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นระดับท็อปของจีน แล้วหลังจากขึ้นเป็นผู้เล่นอาชีพได้เพียงปีเดียว เขาก็ติดทีมชาติจีนไปแข่งขันในศึกโอลิมปิกปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ
สิ่งที่สมาคมแบดของจีนวิเคราะห์และวางแผนไว้คือ หลิน ตัน จะต้องเป็นมือ 1 และความหวังสูงสุดที่จะเอาเหรียญทองการแข่งขันครั้งนั้น แต่ก้ต้องจอดเพียงรอบแรกเท่านั้น โดน โรนัลด์ ซูซิโล จากสิงคโปร์ ทั้งที่เจ้าตัวถูกให้เป็นมือวางอันดับ 1 ของรายการ
4 ปีผ่านไปไวมาก หลิน ตัน ในเวอร์ชั่นที่ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นจากความพ่ายแพ้ในปี 2004 กลับมาแก้ตัวได้สำเร็จในโอลิมปิกปี 2008
เขามาในเวอร์ชั่นที่เหมาะสมกับฉายา ซูเปอร์ตัน อย่างแท้จริงตามที่ปีเตอร์ เกด นั้นตั้งฉายาให้เขา เขามาแบบรวดเดียวเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศซึ่งเป็น ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ เมื่อหลิน ตัน พบกับ ลี ชอง เหว่ย จาก มาเลเซีย 2 ซึ่งในขณะนั้นเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีของความเป็นเบอร์ 1 ของชายเดี่ยวแบดมินตันโลก
ท้ายที่สุดเขาเป็นผู้เล่นจีนคนแรกที่คว้าเหรียญทองให้กับทีมชาติในประเภทชายเดี่ยวถัดจากปี 2000 แมตช์นั้น หลิน ตัน เอาชนะไปอย่างขาดลอย
แฟนแบดมินตันจีน ได้มีการพูดถึง หลิน ตัน กันอย่างกว้างขวางในเวลานั้น ว่าเขานี่ละที่จะก้าวขึ้นไปเป็นมือ 1 ของโลกคนต่อไป หลังคว้าแชมป์ชายเดี่ยวรายการ ออล อิงแลนด์ ในปี 2004 มาครองได้เป็นครั้งแรก
นอกจากนี้ยังเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมจีนคว้าแชมป์ โธมัส คัพ ที่อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นรายการที่ทีมจีนไม่เคยสัมผัสแชมป์มาแล้วเป็นเวลาถึง 14 ปี
ปิดตำนานขนไก่ยุทธภพแดนมังกร
นั่นคือจุดเปลี่ยนอย่างแท้จริงในแบดมินตันแดนมังกรหลิน ตัน บอกว่า ผมก็มีความสุขและภูมิใจมาก ทั้งครอบครัวโค้ชสมาชิกในทีมและแฟน ๆ ของผม ที่ผ่านความยากลำบากหลายครั้งขึ้น ๆ ลง ๆ และเรากระโดดทุกครั้งเพื่อเป็นความหวังสำหรับชัยชนะ
ผมไม่ได้คิดที่จะจากไปไหนทั้งนั้น และไม่เต็มใจที่จะคิดแบบนั้นด้วยซํ้า ผมมอบทุกอย่างให้กับแบดมินตันนี้ที่ฉันรัก 'อดทน' ผมบอกตัวเองในช่วงเวลาที่ยากลำบากทุกครั้งเพื่อให้อาชีพของผมยาวนานขึ้น
เมื่อเทียบกับวัยเยาว์ของผมเมื่อเราไล่ล่าอันดับพวกนี้ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นสิ่งฉันท้าทายตัวเอง ถึงขีดของอายุที่มากขึ้นและเราต้องดำเนินชีวิตด้วยจิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้ เป็นสิ่งที่เราต้องผมคิดอยู่ตลอด
ผลกระทบของเกมนั้นมันยากที่จะวัดได้อย่างแม่นยำ แต่ทักษะการเล่น หรือรูปเกมที่โดดเด่นและความสามารถในการจับคู่ของเขาได้รับการจับคู่โดยออร่าที่ทำให้เขากลายเป็นไอคอนและดึงดูดผู้ชมทั่วโลก
เขาวางมาตรฐานที่ยากถ้าเป็นไปไม่ได้ที่จะจับคู่ที่ได้เลย
ไม่มีการแข่งขันครั้งใหญ่ที่เขาไม่ชนะหรือไม่มีคู่แข่งที่เขาไม่สามารถเอาชนะได้
ตอนนั้น ชื่อของ ลี ชองเหว่ย ตำนานอีกคนนึงของมาเลเซีย ก็ปรากฏขึ้นมาเป็นคู่แข่งตลอดกาล เป็นเพื่อนรักทั้งในและนอกสนามจนถึงปัจจุบัน ทั้งคู่เปิดใจกันหมดทุกเรื่องทั้งในนอกสนาม ไปกินข้าวกันต่างๆ นาๆ แต่พอในสนามแบดมินตันแล้วก็เป็นเรื่องของมืออาชีพ
ไม่มีพี่น้อง ไม่มีคำว่าเพื่อน
สู้ให้ตายกันไปข้างนึง แต่พอจบแล้วก็คุยเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
จากนั้นมาหลิน ตัน โกยแชมป์ได้อย่างต่อเนื่องแบบไม่หยุดหย่อน จนก้าวขึ้นมาเป็นมือ 1 ของโลกได้สำเร็จในปี 2004 กับสไตล์การเล่นที่ไม่เหมือนใคร แล้วยากที่ใครจะมาโค่นล้มได้ ก็แต่ลี ชองเหว่ย ที่เจอกันเมื่อไร สนุกเมื่อนั้นไม่ว่าจะเป็นรายการไหน
ศึกแห่งศักดิ์ศรีในโอลิมปิก 2012 ในรอบชิงเหรียญทอง ก็ยังเป็นแมตช์ที่แฟนๆขนไก่ทั่วโลกยังจำภาพนี้ได้ เมื่อแมตช์ดังกล่าว หลิน ตัน ได้รีแมตช์กับ ลี ชองเหว่ยอีกครั้งที่เจ้าตัวหมายหมั้นปั้น
มือว่าจะเอาคืนให้ได้
แต่สุดท้ายก็เป็น หลิน ตัน ที่คว้าเหรียญทองที่ 5 ให้กับแบดมินตันจีนในขณะนั้น โดยพลิกแซงชนะไปได้ 2-1 เกม สะใจแฟนๆแบดมินตันในเวมบลีย์ อารีน่า
แต่ที่โมเมนต์ที่ยังตรึงตาตรึงใจแฟนแบดมินตันในสนามเทียนเหอ ยิมเนเซียม ก็คือ เขาได้วิ่งไปจูบกับ เซี๊ยะ ซินฟาง ภรรยาของเขาในการคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 มาได้สำเร็จ ในแมตช์นั้นเองเขาก็ชนะ เพื่อนรักของเขา อย่าง ลี ชองเหว่ยไปได้ถึงแม้จะไม่สวยงามนัก เพราะชองเหว่ยเอง ก็มีอาการบาดเจ็บในช่วงท้ายเกม เขาก็มาปลอบเพื่อนรักของเขาแบบน้ำใจนักกีฬา
ในระยะสั้นความกล้าหาญของเขาเป็นหลักเนื่องจากความสมบูรณ์ของเกมของเขา ในทักษะความสามารถทางกายภาพและความแข็งแรงของจิตใจ เวลาที่ผมอ่อนไหวแล้วที่ๆผมจะไป คือ กลับไปบ้าน จากนั้นจะเป็นหน้าที่ของแม่และครอบครัวที่จะทำให้ผมใจเย็นลงและมีสติในก้าวต่อไป
หลายคนมองว่าเขาเป็นนักกีฬาที่มีความเป็นอารมณ์ศิลปินสูง อยากแข่งก็แข่ง ไม่อยากแข่งก็ถอนตัวไป หรือในสนามถ้าวันไหนถ้าไม่อยากเล่น ก็ตีให้แพ้ไป แล้วก็จบ แต่ในเรื่องของฝีมือแล้วทุกคนบนโลกนี้ต่างยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่า "ของจริง"
เป็นการปิดตำนานราชันแบดมินตันจักรพรรดิที่ชื่อ "หลิน ตัน" อย่างภาคภูมิใจ
สำหรับประวัติของ หลิน ตัน เกิดวันที่ 14 ต.ค.1983 ในวัย 36 ปี
เกิดที่ มณฑลฝูเจี้ยน สาธารณรัฐประชาชนจีน
เริ่มเล่นแบดมินตันอาชีพตั้งแต่ ปี 2000
สถิติการแข่งขันทั้งหมด ชนะ 666 ครั้ง แพ้ 128 ครั้ง ขึ้นมือ 1 ของโลก เมื่อปี 2004
ปัจจุบันแต่งงานกับ เซี๊ยะ ซินฟาง อดีตแชมป์โลกหญิงเดี่ยว 2 สมัย และ เหรียญเงินโอลิมปิกปี 2008 โดยมีลูกชาย 1 คนชื่อ เสี่ยว หยูว วัย 4 ขวบ
ผลงานอันสุดยอดของ ซูเปอร์ตัน หรือ หลิน ตัน
- แชมป์โลก 5 สมัยในปี 2006 , 2007 ,2009 , 2011 และ 2013 รองแชมป์ 2 สมัยปี 2015 และ 2017
- เหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัย ปี 2008 และ 2012
- แชมป์เวิลด์คัพ 2 สมัย ปี 2005 และ 2006
- แชมป์เอเชีย 4 สมัย ปี 2010 ,2011,2014,2015
- เหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ 2 สมัย ในประเภทชายเดี่ยว ปี 2010 และ 2014 และ 3 สมัยในประเภททีมชายในปี 2006 ,2010 และ 2018
- แชมป์โธมัส คัพ 6 สมัย ปี 2004 ,2006,2008,2010 , 2012 และ 2018
- แชมป์สุธีรมานคัพ 5 สมัย ปี 2005 , 2007 , 2009 , 2011 , 2015
- แชมป์ออล อิงแลนด์ 6 สมัย ปี 2004,2006,2007,2009,2012 และ 2016 รวมไปถึงคว้าแชมป์อีกมากมายในระดับเวิลด์ทัวร์อีก 66 รายการ กับอีก 25 รองแชมป์ และแชมป์สุดท้ายของหลิน ตัน คือ แชมป์มาเลเซียน โอเพ่น 2019
ปิดตำนานขนไก่ยุทธภพแดนมังกร
ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว แวดวงกีฬา เทรนใหม่ๆ ได้ที่ tri-csoccer.com
|