[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ติดต่อสอบถาม
blog สมาชิก
สถิติผู้เขียน blog 10 อันดับ
wave
[ มือใหม่ ]
2
admin
[ มือใหม่ ]
2
orean
[ มือใหม่ ]
2
KAT
[ มือใหม่ ]
1
yuy
[ มือใหม่ ]
1
aTon
[ มือใหม่ ]
1
fang
[ มือใหม่ ]
1
film
[ มือใหม่ ]
1
mild
[ มือใหม่ ]
1
Donus
[ มือใหม่ ]
1
บทความ blog ล่าสุดโดย
เพลงคริสต์มาสtortae
การดูแลรักษาสุภาพ ให้แข็งแรงaTon
ประเพณีวันเข้าพรรษาmild
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
อาเซียนDonus
การวาดภาพสีนำ้lovepop-123456
อาเซียนmikekung02
ลดความอ้วนสูตรนางเอก 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์yuy
ปรากฏการณ์ธรรมชาติMin-Mintra
ไลน์ โรงเรียนศรัทธาฯ

ติดต่อ สอบถาม

poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก

  

   เว็บบอร์ด >> >>
ลิเวอร์พูล ถือว่าความได้เปรียบเมื่อพวกเขารั้งอันดับจ่าฝูงมี 67 คะแนน  VIEW : 9    
โดย W

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 130
ตอบแล้ว : 1
เพศ :
ระดับ : 9
Exp : 24%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 194.5.82.xxx

 
เมื่อ : อังคาร ที่ 23 เดือน เมษายน พ.ศ.2567 เวลา 13:58:52   

 

แม้ว่าสถานการณ์ในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2023/2024 ยังคงเข้มข้นสูสีก็ตาม แต่ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ถือว่าความได้เปรียบเมื่อพวกเขารั้งอันดับจ่าฝูงมี 67 คะแนน นำ อาร์เซน่อล อันดับ 2 กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 3 อยู่สองและสามแต้มตามลำดับ

สำหรับตอนนี้เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการแข่งขันลีกสูงสุดเมืองผู้ดีแล้ว โดย "ม้าสามตัว" เหลือโปรแกรมเท่ากันนั่นก็คือ 9 เกม ซึ่งแต่ละทีมต้องเจอกับสถานการณ์ยากง่ายไม่เท่ากัน แต่เท่าที่บรรดาเกจิลูกหนังหลายสำนักวิเคราะห์มองว่า "ปืนใหญ่" ต้องเจอกับงานที่ยากที่สุด ส่วน "เรือใบสีฟ้า" ถือว่างานไม่หนักหนาสาหัสอะไรเลย

ขณะที่ "หงส์แดง" ต้องบอกว่าโปรแกรมอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้ยากมากแต่ก็ไม่ง่าย เนื่องจากทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ ยังมีเกมที่อันตรายอย่างน้อย 5 แมตช์ที่อาจส่งผลต่อการลุ้นแชมป์ของพวกเขาได้เลยทีเดียว

1. เยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : 7 เม.ย.

หลังจบแมตช์รับมือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายนนี้ คล็อปป์ แอนด์ โค. ต้องเจอกับงานสุดหินในการทำศึกแดงเดือด ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในอีกสามวันถัดมา ซึ่งบอกเลยว่าไม่ง่ายแน่นอน เนื่องจากนี่คือการดวลกับคู่อริตลอดกาลที่เพิ่งจะเขี่ย ลิเวอร์พูล ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกเอฟเอ คัพ เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเหล่าขุนพล "ปีศาจแดง" คงไม่อยากเห็น "หงส์แดง" ได้ดิบได้ดี ฉะนั้นคงจะมีความมุ่งมั่นที่จะขัดแข้งขัดขาพวกเขา ที่สำคัญ แมนฯ ยูฯ ยังมีลุ้นอันดับท็อปโฟร์ ด้วยเหตุนี้ เอริค เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ คงสั่งลูกทีมสู้ถวายหัวเพื่อเรียกศรัทธาจากเหล่าแฟนผีโปรเจกต์

2. เยือน เอฟเวอร์ตัน : 24 เม.ย.

อีกแมตช์ที่ต้องบอกว่าอันตรายมากๆ ไม่แพ้การไปเยือน แมนฯ ยูฯ นั่นก็คือการบุกถิ่นกูดิสัน พาร์ค ปะทะ เอฟเวอร์ตัน ในศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ช่วงปลายเดือนเมษามหาสงกรานต์ แน่นอนว่า "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ไม่อยากเห็นทีมคู่ปรับร่วมเมืองเถลิงแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือทุกแต้มของพวกเขามีความหมายมากๆ ต่อการอยู่รอดในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันพวกเขารั้งอยู่อันดับ 16 มี 25 คะแนน ห่างจากโซนตกชั้นแค่ 3 แต้มเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ลูกทีมของกุนซือฌอน ไดซ์ ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเก็บคะแนนจาก "เดอะ เร้ดส์" ให้ได้ ฉะนั้นพลพรรคลิเวอร์พูลเตรียมเจอการต้อนรับแบบสุดโหดจากสาวก "ทอฟฟี่เมน" กันได้เลย

3. เยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, 27 เม.ย.

ไม่รู้ว่าอะไรดลใจถึงทำให้ผู้จัดโปรแกรมจับวางเกมลิเวอร์พูลต้องออกไปเยือน 3 แมตช์ติดต่อกันโดยเริ่มจาก ฟูแล่ม, เอฟเวอร์ตัน และตบท้ายด้วยการปะทะ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แม้ว่าฟอร์มของ "ขุนค้อน" จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่สำหรับช่วง 3 เกมล่าสุดโดยเสมอไป 2 และแพ้ 1 เกม แต่การที่ ลิเวอร์พูล ต้องไปเยือน ลอนดอน สเตเดี้ยม ไม่เรื่องง่ายๆ แน่นอน เพราะทุกครั้งที่ต้องไปเยือน "หงส์แดง" ต้องเหนื่อยแทบรากเลือดกว่าจะได้สามแต้มกลับบ้าน โดยนักเตะที่สุดอันตรายของเจ้าบ้านก็คือ จาร์ร็อด โบเว่น กับ มิคาอิล อันโตนิโอ ที่พร้อมทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" น้ำตาร่วง

4. รับมือ สเปอร์ส : 04 พ.ค.

นี่คือหนึ่งในเกมที่บรรดาสาวก "เดอะ ค็อป" รอคอย หลังจากที่ทีมรักของพวกเขาเคยโดน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทำเจ็บแสบมาแล้วเมื่อช่วงต้นซีซั่น โดยแมตช์นั้นแฟนบอล "หงส์แดง" มองว่าพวกเขาโดนปล้นชัยชนะจาก "วีเออาร์" และนั่นคือความคับแค้นใจที่แฟนบอลกับนักเตะต้องการระบายใส่ สเปอร์ส แต่ก็ต้องระมัดระวังให้ดีเช่นกัน เนื่องจากในช่วงเวลานั้นทีมของกุนซืออังเก้ ปอสเตโคกลู อาจจะยันมีลุ้นโควตา ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และการบุกมาคว่ำเจ้าบ้านนอกจากจะได้สามคะแนนสำคัญแล้ว ยังได้ตอกย้ำความแค้นให้กับ "เดอะ เร้ดส์" อีกด้วย

5. เยือน แอสตัน วิลล่า : 11 พ.ค.

แม้ว่า ลิเวอร์พูล จะโชว์ฟอร์มสุดยอดด้วยการไล่ต้อน แอสตัน วิลล่า 3-0 ที่แอนฟิลด์ เมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา แต่พวกเขาเตรียมเจอกับบททดสอบที่สุดหินในการเยือนถิ่นวิลล่า พาร์ค ได้เลย โดยแมตช์นี้จะเป็นเกมเยือนนัดสุดท้ายของซีซั่นสำหรับ "บอส" ซึ่งเขาคาดหวังว่าคว้าชัยชนะที่นี่ให้ได้ 4 แมตช์ติดต่อกันเพื่อเป็นการสั่งลาการทำงานกับ "หงส์แดง" อย่างไรก็ตาม วิลล่า ก็เคยทำแสบใส่ ลิเวอร์พูล เช่นกันนั่นก็คือการเปิดบ้านยำใหญ่ 7-2 เมื่อเดือนตุลาคมปี 2020 ที่สำคัญทีมของกุนซืออูไน เอเมรี่ มีสถิติที่สวยหรูในการเล่นที่บ้านช่วงต้นฤดูกาลนี้ โดย แมนฯ ซิตี้ กับ อาร์เซน่อล เคยโดนทีเด็ดมาแล้ว แม้ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังทีมจะแพ้คาบ้านหลายเกมแต่ถ้า ลิเวอร์พูล ประมาทมีสิทธิ์โดนลงโทษได้เช่นกัน

 

 

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufa