เกมนี้ทุกคนจับตาดูงานของ เอริก เทน ฮาก ที่จะต้องไม่ปล่อยให้มันย่ำแย่ไปกว่านี้เมื่อเจอกับทีมที่สร้างมา7 ปีภายใต้การนำของ เจอร์เก้น คลอปป์

เกิดอะไรขึ้นในเกมนี้

1 ETH ปรับทีมเพื่อใช้ความสดในการเพรส

พัก แฮร์รี แมกไกวร์ และ โรนัลโด แบ๊กซ้ายใช้ มาลาเซีย ส่วนแบ๊กขวา ยังเป็น ดาโลต์ ขณะที่แดนกลางยังคงเลือกสูตร เอริกเซน เล่นเบอร์8 โดยเกมนี้เลือกตัวตัดเกมคือ สกอต แมกโทมิเนย์ ขณะที่ บรูโน เล่นตัวรุกมี เอลังกา ปีกซ้าย และ ซานโช ปีกขวา หน้าเป้า แรชฟอร์ด

หงส์แดงไม่มีทางเลือกมากนักสำหรับการจัดตัวเกมนี้ แดนกลางต้องส่ง เฮนโด, มิลเนอร์ และ เอลเลียตต์ ลงข้างหน้าก็เหลือ บ๊อบบี, ซาลาห์ และ ดิอาส แบ๊กโฟร์ตามคาด ไม่มีพลิก

2 ผีเพรสดี ถึงลูกถึงคน

การใช้ แรชฟอร์ด มีปีกสองฝั่ง และ บรูโน ในการไล่เพรสแดนบน ส่วนแดนกลาง เอริกเซน กับ แมกโทมิเนย์ ขยับขึ้นมาเล่นเพื่อรอบอลสอง และไม่ให้แดนกลางหงส์ได้เล่นบอลง่ายๆ แบ๊กซ้าย มาลาเซีย ไม่ให้ ซาลาห์ พลิก ดาโลต์ ก็ตาม ดิอาส ติด เป้าหมายไม่ให้สองคนที่ได้บอลง่ายๆ หรือพลิกบอลหนี

บวกกับการเข้าบอลเร็วจังหวะ 50-50 ไม่มียั้ง ถึงตัวตลอด ทำให้เด็กหงส์เล่นเกมตัวเองไม่ได้ แถมเสียบอลแดนกลางบ่อยจนดูเหมือนไม่มีทรง พอเสียบอล แมนฯยูฯ โจมตีเร็วจากแดนสองไปแดนสาม หลุดเดี่ยวไปสามเที่ยว แต่ผีก็ขึ้นนำจากจังหวะการเล่นบอลง่ายๆ หน้าไลน์ หลังจากเดินเกมรุกเข้าหาลิเวอร์พูล จังหวะทำชิ่ง 1-2 เอลังกา กับ เอริกเซน จังหวะนั้น เอลเลียตต์ และ เฮนโด ไม่มีใครเข้าหา เอริกเซน ชิ่งง่ายๆ ก่อน เอลังก้า หลุดเข้าไปเปิดคัตแบกให้ ซานโช หลอก มิลเนอร์ หลังหักก่อนยิงง่ายๆ 1-0

จากนั้นพอหงส์เสียบอลแดนกลางก็เกือบเสียลูก 2 จาก แมกโทมิเนย์ ตัดบอลได้ แล้ให้ เร็ว บรูโน สไลด์บอลให้ เอลังกา หลุดเดี่ยว…. ทว่าพลาดเอง ยิงชนเสา

3 ครึ่งชั่วโมงที่ไร้ทรงหงส์แดง

ปัญหาคือหงส์แดงเล่นเกมตัวเองไม่ได้ ดูไม่มีรูปแบบเท่าไหร่เมื่อโดนเพรสจากนักเตะผี โดยเฉพาะแดนกลาง มิลเนอร์, เฮนโด และเอลเลียตต์ ไม่สามารถเล่นเกมได้ดีสักเท่าไหร่ เป็นรองกว่า 35 นาที ทั้งการขึ้นบอลแย่งบอล ตรงนี้มีคำถามว่า ฟาบินโญ ไม่ฟิต หรือว่าอย่างไร จึงไม่มีชื่อ

กระนั้น 15 นาทีสุดท้าย แมนฯยูฯ เพรสหนักแล้วจึงเริ่มผ่อน การเข้าบอลช้าลงไปกว่าช่วงแรก ทำให้เด็กหงส์สามารถคุมจังหวะการเล่นได้ และเริ่มเข้าไปกดดันแดนสามต่อเนื่อง จนเกือบลุ้นตีเสมอ แต่จังหวะยังไม่ได้

4 หงส์พลาดก็โดนลงโทษ

ครึ่งหลัง เทน ฮาก เปลี่ยนตัวก่อน เอา มาร์​กซิยาล มายืนหน้าเป้า ถอด เอลังกาออก แล้วให้แรชฟอร์ด ไปยืนด้านซ้าย เด็กหงส์เริ่มต้นห้านาทีแรกคุมเกมบุกได้อยู่ แต่ก็เจาะไม่เข้า

แต่พอพลาด…เสียบอล เสียประตูทันที

ประตู 2-0 เกิดขึ้นในจังหวะบุกแล้วเสียบอล มาถึง เฮนโด จับบอลไม่ดี ฟานไดจ์ก็ ช้า โดน ซานโช ตัดบอลได้ ก่อนแทงให้ แรชฟอร์ด หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงง่ายๆ 2-0 น. 53

แรชฟอร์ด ยิงลิเวอร์พูล 5 ลูกจากการลงสนามเจอกัน 11 ครั้ง

5 ผีดีทุกคน

ทั้ง เดเคอา ที่เซฟลูกสำคัญได้ ไม่มีพลาด แบ๊กโฟร์ มาร์ติเนส-วาราน , ดาโลต์ โดยเฉพาะ มาลาเซีย ประกบ ซาลาห์ ได้ดีจริงๆ แดนกลาง บรูโน, แมกโทมิเนย์ และเอริกเซน ไล่บอลถึงตัวกันเร็วจนเด็กหงส์พลิกบอลเล่นไม่ถนัด ออกลูกสะเปะสะปะ เหมือนเมื่อครั้งที่เด็กหงส์ เล่นกับทีมอื่นแบบนี้

ทุกคนวิ่งกันเกินร้อย…อย่างที่แฟนผีอยากเห็น จน มาร์ติเนส เป็นตะคริวช่วง15 นาทีท้าย

6 ประตูปลอบใจจาก ซาลาห์

โหม่งในจังหวะที่ เดเคอา เซฟมาเข้าทางพอดี เป็นลูกที่สี่ติดต่อกันที่ยิง แมนฯยูฯ น.81 และลูกที่สิบในแดงเดือด…เรียกว่าถูกโฉลกในการยิงแมนฯยูฯ

สรุป…….

เกมนี้ยกนิ้วให้ เอริก เทน ฮาก ที่วางเกมแพลนมาเพื่อปิดจุดแข็งลิเวอร์พูล

ปีกสองฝั่งไม่ให้มีพื้นที่เล่น ไม่ให้พลิกบอล แดนกลางเข้าหาบอลเล่นกันดุดัน เข้มข้น intensity แบบที่แดนกลางหงส์ไปไม่เป็นเลย

เกมแพลนที่ว่านี้ได้ผลใน 15 นาทีแรก เมื่อได้ประตูขึ้นนำ ลิเวอร์พูลเสียทรงไปเลย ที่สำคัญมันทำให้นักเตะแมนฯยูฯ มีความมั่นใจมีพลังมากขึ้นในการเล่นตามแผน ส่วนครึ่งหลังก็ตามจังหวะของเกม เพราะหงส์ต้องเดินเครื่องเข้าหา ผีเลยถอนมาแดนสองเพื่อสวนกลับ ในจังหวะหงส์เล่นพลาด แล้วก็ได้ลูก 2-0 ส่วนช่วง 15 นาทีท้าย ผีแดงเน้น ป้องกันผลและรอสวนกลับ ตรงนี้ก็เป็นการทดสอบการเล่นเกมรับภายใต้ความกดดัน ซึ่งพอรับนานๆก็มีโอกาสพลาด โดนตีไข่แตกจาก ซาลาห์ แต่ถือว่าโดยภาพรวมทุกแดน เล่นได้ดีจริงๆ

ชัยชนะ…ทำให้แมนฯยูฯ น่าจะเริ่มต้นซีซั่นนี้ในงานซ่อมและสร้างของ เทน ฮาก ได้แล้ว โดยที่ โรนัลโด เป็นตัวสำรองที่ไม่ได้มีผลในเกมนี้ ส่วนลิเวอร์พูลนั้นออกตัวได้ย่ำแย่ ในสามเกมแรกยังไม่ชนะใครเลย พร้อมทั้งสภาพทีมที่เหลือนักเตะชุดแรกให้ใช้งานแบบจริงจังแค่ 12 คน

แมนฯยูไนเต็ด ชนะทั้งแทกติกและสกอร์อย่างหมดจดจริงๆ

ส่วนลิเวอร์พูลนั้น….เริ่มต้นแบบนี้ เล่นแบบนี้ในสามเกมแรก

ดูแล้วเหนื่อยครับ….

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufabet