
ทีมชาติจีนผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปี 2002 ที่เกาหลีใต้กับญี่ปุ่นรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพร่วมกัน นั่นคือครั้งเดียวที่มหาอำนาจอย่างจีนก้าวไปถึงจุดนั้น ได้สำเร็จ จะว่าไปแล้วนอกเหนือจากฝีมือที่ยอดเยี่ยมของ โบลา มิรูติโนวิซ ยอดบรมกุนซือและนักเตะฝีเท้าดีที่นำทัพโดย ฟาน จือ ยี่ ,ซุน จี ไห่ ที่พาทีมประสบความสำเร็จแล้ว ต้องยอมรับว่าในช่วงเวลาดังกล่าวการเป็นเจ้าภาพสองมหาอำนาจเอเชียทำให้เส้นทางฟุตบอลโลกของจีนสะดวกโยธินมากขึ้น
ตลอดระยะเวลา 18 ปี ที่ผ่านมาจีนพยายามเดินหน้าทำทุกอย่างให้กลับไปยืนจุดเดิมอีกครั้งทั้งเรื่องของการจัดการลีก ว่าจ้างนักเตะฝีเท้าดี,โค้ชระดับโลกมาเป็นแรงบันดาลใจสร้างความเก่งกาจนักเตะในประเทศให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาโครงสร้างด้านเยาวชนวางรากฐานให้แข็งแกร่ง นอกจากนั้นยังมีบรรดามหาเศรษฐีที่พุ่งตรงมาเป็นเจ้าของทีมทั้งในประเทศและต่างแดนเพื่อสอดประสานเรื่องของโอกาสรวมไปถึงเติมประสบการณ์ให้นักเตะแดนมังกร
แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปอีกอย่างของจีนคือเรื่องของการโอนสัญชาติผู้เล่นสู่สารบบทีมชาติ อีกทั้งยังกว้านหานักเตะที่มีเชื้อสายใกล้-ไกลจีนเข้ามาสู่เส้นทางของทีมชาติและเส้นทางของฟุตบอลลีกตามกฎระเบียบของฟีฟ่า เพื่อให้เกิดตัวเลือกที่มากขึ้นในยุคที่ฟุตบอลจีนซบเซาในช่วงหลังๆ จริงๆแล้วจีนวางแผนงานไว้ละเอียดพอสมควรนอกเหนือจากการสร้างสนามแข่งขันที่ทันสมัยมูลค่าสูง ซึ่งมีทั้งแผนระยะสั้นและระยาว ในแผนระยะสั้นเรื่องราวของการโอนสัญชาติและการแปลงสัญชาติจึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับผลงานที่คาดหวัง
การที่นักเตะระดับบิ๊กเนมสัญชาติอื่นเล่นในลีกจีนเกิน 5 ปี ไม่มีพันธะผูกพันทีมชาติกับถิ่นกำเนิดตัวเอง กลายเป็นการกลั่นกรองเข้าสู่ทีมชาติจีนแบบจริงจัง ส่วนบรรดาแข้งที่มีบรรพบุรุษเป็นชาวจีนก็เป็นอีกแนวทางที่มีทั้งคัดเลือกคัดสรรวางเข้ามาในโปรแกรมทีมชาติ หากย้อนเวลากลับไปในช่วงต้นปี 2019 ในการแข่งขันฟุตบอลเอเซียน คัพ ที่ประเทศยูเออี เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโฉมหน้าของผู้เล่นจีนคือนักเตะที่มีรูปลักษณ์จีนแท้ๆ มีผู้เล่นที่วัย 29 ปี ขึ้นไปในทีมถึง 16 จาก 23 คน มีเพียง เปียว เฉิง กองกลางวัย 30 ปี รายเดียวเท่านั้นที่มีเชื้อสายจีน-เกาหลีใต้ ภายใต้การคุมทัพของ มาร์เซลโล ลิปปี้ กุนซือชาวอิตาลี คุมทัพ
ผลงานในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2019 จีน จบทัวร์นาเมนต์ด้วยการผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเท่านั้น จากผลงานรอบแรก ชนะ คีกีซฯ2-1,ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-0 ,แพ้ เกาหลีใต้ 0-2 รอบ 16 ทีม ชนะ ไทย 2-1 ส่วนรอบก่อนรองชนะเลิศ(8 ทีม) โดนอิหร่านถล่ม 3-0 การไม่ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ จีนที่แยกทางกับ มาร์เชลโล่ ลิปปี้ แต่ก็เป็นเพียงการแยกทางสั้นๆเอา ฟาบิโอ คันนาวาโร มาคุมทัพในช่วงฟีฟ่าเดย์ สุดท้ายก็หวนกลับไปใช้กุนซือขรัวเฒ่าอีกจนได้ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย แต่เล่นไป 4 เกมผลงานไม่ดีเก็บได้เพียง 7 แต้ม ( ชนะ มัลดิฟส์ 5-0,ชนะ กวม 7-0, เสมอ ฟิลิปปินส์ 0-0 และ แพ้ซีเรีย 1-2)จึงต้องแยกทางกันอีกหนพร้อมกับดัน หลี่ เถีย อดีตนักเตะทีมชาติจีนขึ้นคุมทัพทันที
ก่อนหน้านี้จีนจัดการโอนสัญชาติ เอลเกลสัน แข้งบราซิลเข้ามาสู่ทีมได้เปิดตัวในฟุตบอลโลก พร้อมกับบรรดา แข้งที่แปลกตาไปในทีมชาติจีน อย่าง นิโก เยเนริส อดีตเยาวชนทีมชาติอังกฤษและนักเตะสโมสรอาร์เซนอลเชื้อสายจีน ล่าสุด หลี่ เถีย กุนซือทีมชาติจีนยังทำการเรียก อลอยซิโอ กอนซาเวซ แข้งบราซิล รวมไปถึง อลัน ดักลาส คาวัญโญ แข้งบราซิลอีกรายเข้ามาสู่กระบวนการฝึกซ้อมทีมชาติจีนล่าสุด ซึ่งรายหลังติดปัญหาเรื่องของการเดินทางกลับจากบราซิล
นอกจากนั้นในลีกยังมีนักเตะที่เริ่มได้สัญชาติจีนตามบรรพบุรุษอย่าง ไทอัส บราวนิ่ง อดีตเยาวชนทีมชาติอังกฤษและสโมสรเอฟเวอร์ตัน รวมไปถึงผู้เล่นอีกหลายราย ปี 2020 เมื่อฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย กลับมาแข่งขันกันใหม่ทีมชาติจีนที่เราเคยเห็นก่อนหน้านี้ 1ปี ที่แล้ว ในรายการเอเซียน คัพ 2019 อาจจะเปลี่ยนโฉมหน้าตาของผู้เล่นไปอย่างมาก อีกทั้งในรุ่นเยาวชน 19ปี ชุดชิงแชมป์เอเชีย ของจีนก็เริ่มมีบรรดาแข้งลูกครึ่งเข้ามาสู่ทีมเป็นจำนวนมาก
นักเตะทีมชาติจีนยุคใหม่
เอลเกลสัน กาโดโซ (บราซิล-จีน) อายุ 30ปี / กองหน้า กว่างโจวฯ
อลอยซิโอ กอนซาเวซ (บราซิล-จีน) อายุ 31ปี / กองหน้า กว่างโจวฯ
นิโก เยเนริส (อังกฤษ-จีน) อายุ 26ปี / กองกลาง ปักกิ่งฯ
อลัน ดักลาส คาวัญโญ (บราซิล-จีน) อายุ 30ปี กองหน้า ปักกิ่งฯ
เพิ่มเติม : plsmis.com
|