[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ติดต่อสอบถาม
blog สมาชิก
สถิติผู้เขียน blog 10 อันดับ
wave
[ มือใหม่ ]
2
admin
[ มือใหม่ ]
2
orean
[ มือใหม่ ]
2
KAT
[ มือใหม่ ]
1
yuy
[ มือใหม่ ]
1
aTon
[ มือใหม่ ]
1
fang
[ มือใหม่ ]
1
film
[ มือใหม่ ]
1
mild
[ มือใหม่ ]
1
Donus
[ มือใหม่ ]
1
บทความ blog ล่าสุดโดย
เพลงคริสต์มาสtortae
การดูแลรักษาสุภาพ ให้แข็งแรงaTon
ประเพณีวันเข้าพรรษาmild
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
อาเซียนDonus
การวาดภาพสีนำ้lovepop-123456
อาเซียนmikekung02
ลดความอ้วนสูตรนางเอก 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์yuy
ปรากฏการณ์ธรรมชาติMin-Mintra
ไลน์ โรงเรียนศรัทธาฯ

ติดต่อ สอบถาม

poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก

  

   เว็บบอร์ด >> >>
ก็องโต้คือ "เดอะ คิง" แต่ ลี มาร์ติน ผู้ต่ออนาคต "ป๋า"  VIEW : 568    
โดย 555

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 3306
ตอบแล้ว : 7
เพศ :
ระดับ : 46
Exp : 84%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 113.53.24.xxx

 
เมื่อ : พุธ ที่ 13 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2563 เวลา 00:49:43   

เอริก คันโตน่า คือบุรุษผู้เปลี่ยนประวัติศาสตร์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการคืนสู่ความยิ่งใหญ่ของ "ผีแดง" แต่เรื่องราวเหล่านี้อาจจะไม่เกิดขึ้นหาก "ปีศาจแดง" ไม่มีนักเตะที่ชื่อ ลี มาร์ติน ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นั่งกุมบังเ***ยนทีมต่อไป จนกระทั่งกลายเป็นตำนานในปัจจุบัน

การมาของ "ก็องโต้" ช่วยทำให้ "เร้ด เดวิลส์" ผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 1992/93 ซึ่งเป็นครั้งแรกในการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษในรอบ 26 ปีก่อนจะนำไปสู่การครองอำนาจลูกหนังเมืองผู้ดีเกือบ 3 ทศวรรษ

อย่างไรก็ตามความยิ่งใหญ่ระดับตำนานแบบนี้อาจจะไม่มีหากไม่ได้ประตูทองของ "มาร์ติน"  ในนาทีที่ 59 ส่งให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ปราบ คริสตัล พาเลซ ในเกมนัดรีเพลย์ ศึกเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ส่งให้พวกเขาคว้าแชมป์และเป็นโทรฟี่แรกของ "ป๋า" ในการกุมบังเ***น "ผีแดง" ในปี 1990

ต้องบอกเลยว่านั่นคือแชมป์ที่สำคัญมากๆ สำหรับ กุนซือเลือดวิสกี้ เพราะเจ้าตัวกำลังตกอยู่ในสถานการณ์กดดัน เพราะนับตั้งแต่เข้ามากุมบังเ***ยนในปี 1986 เขาไม่สามารถพาทีมลืมตาอ้าปากได้อย่างที่บอร์ดบริหารคาดหวังเอาไว้

           ในฤดูกาล 1989/90 แมน ยูไนเต็ด จบในอันดับ 13 แถมยังมีบางช่วงที่ไร้ชัยชนะในเกมลีกถึง 11 แมตช์ และนำไปสู่การประท้วงของสาวก "เร้ด อาร์มี่" ระหว่างเกมลีกที่แพ้ พาเลซ คาบ้าน ในเดือนธันวาคม พร้อมกับเรียกร้องให้ ไบรอัน ร็อบสัน ซึ่งเป็นกองกลางตัวหลักของทีม ก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมแทน

อย่างไรก็ตามบอร์ดบริหารยังคงเชื่อมั่นในแนวทางการทำงานของ "เฟอร์กี้" และยืนกรานว่าเขาจะได้รับโอกาสนั่งกุมบังเ***ยนต่อไป แต่ในขณะเดียวกันหากจบฤดูกาลดังกล่าว กุนซือเลือดวิสกี้ ไม่มีแชมป์ติดไม้ติดมือ ก็ไม่แน่ว่าเขาจะได้อยู่กับทีมต่อไปหรือเปล่า

           สำหรับตอนนี้ผ่านมา 30 ปีกับแชมป์รายการแรกของ เฟอร์กูสัน ก่อนจะนำมาสู่แชมป์มากมายมหาศาล 38 โทรฟี่หลักที่เขานำมาสู่รั้วโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดย  มาร์ติน ยอมรับว่าทุกครั้งที่นึกถึงวันแห่งความสุขเมื่อ 3 ทศวรรษที่สนามเวมบลีย์ ก็ยังแฮปปี้สุดๆ

 

เพิ่มเติม : chrisjerde.com