
คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ รายงานเหตุการณ์แปลกในศึกไทยลีก 3 โซนตะวันออก เมื่อมีแฟนบอลนิรนามคาดว่าเป็นแฟนบอลแปดริ้ว ซิตี้ ขี่มอเตอร์ไซค์เลาะข้างสนาม ก่อนตะโกนด่าผู้ช่วยผู้ตัดสินที่เป็นเพศหญิงด้วยถ้อยคำหยาบคาย สุดท้ายถูกสั่งปรับเงินรวม 10,000 บาท
เหตุการณ์เกิดขึ้นในเกมไทยลีก 3 เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2568 นัดที่ แปดริ้ว ซิตี้ เสมอ เอซีดีซี เอฟซี 3-3 โดยในนาทีที่ 79 ขณะที่บอลอยู่นอกการเล่น สุวิดา วงศ์ไกรษร ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ได้แจ้งผู้ตัดสินว่า มีกองเชียร์คาดว่าน่าจะเป็นกองเชียร์แปดริ้ว ซิติ้ เจตนาขับขี่รถจักรยานยนต์มาบริเวณริมรั้วสนามแข่งขัน ซึ่งเป็นบริเวณอัฒจันทร์ฝั่งตรงข้ามอัฒจันทร์หลัก ที่ไม่ได้เปิดใช้งาน ไม่มีรั้วกั้นบริเวณทางเข้าอัฒจันทร์ ซึ่งเป็นถนนที่รถสามารถขับเข้ามาได้ และไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำจุด ซึ่งใกล้ตำแหน่งที่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ทำหน้าที่อยู่
จากนั้นได้ตะโกนด่าและใช้วาจาคุกคามทางเพศ ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ได้หันหน้าไปมอง แล้วกองเชียร์คนดังกล่าวยังตะโกนด่าต่อว่าอีกครั้ง เมื่อทางผู้ควบคุมการแข่งขันทราบเรื่อง ได้ลงไปประสานกับทางเจ้าหน้าที่ LOC สนาม ให้ส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปช่วยดูแลบริเวณนั้น กองเชียร์คนดังกล่าวได้รีบขับรถจักรยานยนต์ออกจากบริเวณนั้นไป ซึ่งขณะที่กองเชียร์แปดริ้ว ซิติ้ ตะโกนด่านั้น บอลอยู่นอกการเล่น เนื่องจากมีการปฐมพยาบาลนักกีฬาเอซีดีซี เอฟซี ผู้ตัดสินยังไม่ได้ให้เริ่มเล่น
หลังจากนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดไปยืนประจำจุดบริเวณผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 โดยมีสาเหตุมาจากการไม่พอใจที่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ยกล้ำหน้าสโมสรแปดริ้ว ซิตี้ ในนาทีที่ 78
ผลพิจารณาโทษ
1) ลงโทษกองเชียร์สโมสร แปดริ้ว ซิตี้ ด่าเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ข่มขู่ ดูหมิ่น เหยียดหยาม มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.1 ปรับเงิน 30,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 7,500 บาท
2) ลงโทษแปดริ้ว ซิตี้ มีความบกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัย ไม่กระจายกำลังเจ้าหน้าที่ รปภ. ประจำตามจุดต่าง ๆ ให้ครอบคลุมงานรักษาความปลอดภัยในวันแข่งขัน ทั่วพื้นที่ของสถานที่จัดการแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.18 (3) ปรับเงิน 10,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 2,500 บาท
ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 4.1 ด่าบุคคลใด ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือแสดงกิริยาก้าวร้าว ข่มขู่ เช่น การเหยียดผิวหรือเชื้อชาติบุคคลใดด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ทั้งภาษากาย จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 30,000 บาท
หากการกระทำผิดตามวรรคแรก กระทำโดยบุคคลหลายคนโดยพร้อมเพรียงกัน จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 40,000 บาท
หากเป็นการกระทำโดยผ่านเครื่องโทรโข่ง หรือเครื่องขยายเสียงประกอบการเชียร์ หรือถ่ายทอดสดผ่านทางสื่อออนไลน์ ปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 50,000 บาท และห้ามนำอุปกรณ์ดังกล่าวเข้าสถานที่จัดการแข่งขัน 1 ถึง 4 นัด
ข้อ 5.3.18 ความบกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัยในวันแข่งขัน
(3) หากองค์กรสมาชิกที่เป็นทีมเหย้า มีข้อบกพร่องในระบบงานรักษาความปลอดภัย ที่กำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขัน ในแต่ละรายการแข่งขัน จะถูกลงโทษปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 100,000 บาท และ/หรือ ห้ามจัดการแข่งขันในฐานะทีมเหย้า 1 นัดเป็นอย่างน้อย จนกว่าจะแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นให้ผ่านการรับรองจากฝ่ายจัดการแข่งขัน
สำหรับ สุวิดา วงศ์ไกรษร มีดีกรีเป็นผู้ช่วยผู้ตัดสินระดับฟีฟ่า อีลิท เคยได้รับการคัดเลือกจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ไปปฏิบัติหน้าที่ในศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก U17 ที่สาธารณรัฐโดมินิกัน เมื่อปี 2024
สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Betufa
|