[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ติดต่อสอบถาม
blog สมาชิก
สถิติผู้เขียน blog 10 อันดับ
wave
[ มือใหม่ ]
2
admin
[ มือใหม่ ]
2
orean
[ มือใหม่ ]
2
KAT
[ มือใหม่ ]
1
yuy
[ มือใหม่ ]
1
aTon
[ มือใหม่ ]
1
fang
[ มือใหม่ ]
1
film
[ มือใหม่ ]
1
mild
[ มือใหม่ ]
1
Donus
[ มือใหม่ ]
1
บทความ blog ล่าสุดโดย
เพลงคริสต์มาสtortae
การดูแลรักษาสุภาพ ให้แข็งแรงaTon
ประเพณีวันเข้าพรรษาmild
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
อาเซียนDonus
การวาดภาพสีนำ้lovepop-123456
อาเซียนmikekung02
ลดความอ้วนสูตรนางเอก 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์yuy
ปรากฏการณ์ธรรมชาติMin-Mintra
ไลน์ โรงเรียนศรัทธาฯ

ติดต่อ สอบถาม

poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก

  

   เว็บบอร์ด >> >>
ไม่มีผ่อน! 5 ประเด็น ลิเวอร์พูลซ้อมมื้อแรกหลังพักเบรกหนีหนาว   VIEW : 669    
โดย 15

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 2
ตอบแล้ว : 1
เพศ :
ระดับ : 1
Exp : 60%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 125.25.113.xxx

 
เมื่อ : ศุกร์ ที่ 14 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 เวลา 23:02:08   

เหล่าขุนพลชุดใหญ่ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล กลับมาจากช่วงพักเบรกหนีหนาวกันหมดแล้ว และได้ลงทำการฝึกซ้อมครั้งแรกทันทีเมื่อวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยงานนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่เลือดด๊อยท์ช และนักเตะทุกคนเต็มไปด้วยสมาธิในการเตรียมทีมปะทะ นอริช ซิตี้ เกมลีกวันเสาร์นี้
    ก่อนหน้านี้ "เดอะ เร้ดส์" มีประเด็นให้กล่าวถึงกันพอสมควร เมื่อทีมชุดใหญ่ และ คล็อปป์ ไม่ลงทำหน้าที่ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 4 นัดรีเพลย์ โดยส่ง "หงส์แดงจูเนียร์" ปะทะกับ ชรูว์สบิวรี่ ที่สนามแอนฟิลด์ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาทะลุเข้าไปพบ เชลซี ในรอบ 5

    สำหรับตอนนี้เหล่านักเตะทุกคนหมดช่วงเวลาพักผ่อนกันแล้ว และได้กลับมายัง เมลวู้ด สนามซ้อมของทีม เพื่อที่จะทำการฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ โดยงานนี้แข้ง "หงส์แดง" ดูเหมือนได้พลังร่างกายและเติมพลังมาเต็มที่ โดยพร้อมลงสนามไล่ล่าความสำเร็จกันแล้ว
1. การกลับมารวมตัวกันเพื่อไล่ล่าแชมป์
    ขุมกำลัง "หงส์แดง" กลับมาเตรียมความพร้อมสำหรับการลงสนามไล่ล่าความสำเร็จในช่วงที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้ แน่นอนว่าการเห็นเหล่าผู้เล่นลิเวอร์พูล กลับมารวมตัวกันในสนามซ้อมเป็นสิ่งที่สาวก "เดอะ ค็อป" เฝ้ารอมาตลอด เพราะทีมจะได้บุกตะลุยเพื่อสิ่งที่รอคอยมานาน 30 ปี

    แน่นอนว่าการได้เห็นเหล่านักเตะ "เดอะ เร้ดส์" เดินลงสนามซ้อมเพื่อจะได้เตรียมร่างกายสำหรับการลงสนามในแมตช์เยือน "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" นอริช ซิตี้ วันเสาร์นี้ เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมากๆ เพราะทีมจะได้เข้าเกียร์เดินหน้าเพื่อไล่ล่าชัยชนะต่อไป

    สำหรับเป้าหมายหลังจากนี้ก็คือการคว้าชัยชนะ 6 เกมจากทั้งหมด 13 แมตช์ที่เหลืออยู่ เพราะเพียงเท่านี้ก็จะทำให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีสมัยแรกในรอบ 3 ทศวรรษ ที่สำคัญจะเป็นการส่งท้ายกับ "นิว บาลานซ์" บริษัทแบรนด์กีฬาชั้นนำสัญชาติอเมริกัน ที่ผลิตชุดแข้งให้ทีมตั้งแต่ซีซั่น 2015/2016 อย่างงดงาม
2. มาเน่ มาแล้ว
    แฟนบอลลิเวอร์พูล ต้องใจหายใจคว่ำเมื่อเห็น ซาดิโอ มาเน่ ต้องเดินกระโผลกกระเผลกออกจากสนามตั้งแต่ช่วงต้นเกมในแมตช์บุกชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-1 ช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยจากการตรวจสอบแล้วเจ้าตัวบาดเจ็บกล้ามเนื้อหลังต้นขา

    ตอนแรกหลายคนคาดการณ์ว่า มาเน่ อาจจะต้องพักยาวหลายเกม โดยเขาไม่ได้ลงสนามให้กับ "หงส์แดง" 2 แมตช์ในเกมพรีเมียร์ลีกที่ชนะ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน แต่โชคดีจริงเพราะหลังจากนั้นมีการพักเบรกหนีหนาว ทำให้ ดาวเตะชาวเซเนกัล ได้มีเวลาพักฟื้นมากยิ่งขึ้น

    สำหรับตอนนี้ สตาร์ทีมชาติเซเนกัลวัย 27 ปี กลับมาซ้อมกับเพื่อนๆ ได้เรียบร้อย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ เจมส์ มิลเนอร์ แข้งตัวเก๋าวัย 34 ปี ที่พักแข้งยาวมาตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้เพราะปัญหาบาดเจ็บแฮมสตริงเช่นกัน และงานนี้ มาเน่ มีลุ้นลงสนามปะทะ นอริช โดยเขามุ่งมั่นจะยิงประตูให้ได้ เนื่องจากเจ้าตัวยังไม่ยิงประตูในลีกเลยนับตั้งแต่ที่ซัดให้ทีมชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-0 เมื่อวันที่ 2 ม.ค.
3. ซาลาห์ ยิ้มไม่หุบ
    ฟอร์มการเล่นของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ในช่วงเวลานี้ คงไม่มีอะไรต้องเซอร์ไพรส์มากนักที่เจ้าตัวจะยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมในช่วงระหว่างทำการฝึกซ้อม

    "คิง ออฟ อียิปต์" ตะบันตาข่ายคู่แข่งไปแล้ว 5 ประตู และทำ 2 แอสซิสต์ ใน 7 เกมหลังสุดจากการลงสนามทุกรายการ รวมไปถึงการซัด 2 ประตูในแมตช์สอย เซาธ์แฮมป์ตันด้วย

    สำหรับตอนนี้ ซาลาห์ ยิงไปแล้ว 14 ประตูตามหลัง เจมี่ วาร์ดี้ หัวหอก "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งรั้งตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุด เพียงแค่ 3 ประตูเท่านั้น และงานนี้แนวรับของ นอริช คงต้องมีสมาธิสุดๆ เนื่องจาก "บังโม" คงหวังที่จะเพิ่มตัวเลขยิงประตูของเขาอีก เพื่อลุ้นทำสถิติคว้ารางวัลรองเท้าทองคำ 3 สมัยติดต่อกัน
4. ความเป็นหนึ่งเดียวของนายทวาร
    ภาพที่ปรากฎให้เห็นในสนามซ้อมเมลวู้ด แสดงให้เห็นถึงการแข่งขันแย่งมือ 1 ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขระหว่างผู้รักษาประตูทั้ง 4 คนของทีมชุดใหญ่ เพราะพวกเขาต่างพุ่งเข้าแย่งลูกบอลกันอย่างมีความสุขในช่วงที่ลงฝึกซ้อมครั้งแรกหลังจบการพักเบรกหนีหนาว

    จะเห็นได้ว่า อลีสซง เบ็คเกอร์ นายทวารชาวบราซิเลียน, อาเดรียน, ควีวีน เคลเลเฮอร์ และแอนดี้ โลเนอร์แกน ต่างพากันแย่งลูกบอลกันอย่างสนุกสนาม ก่อนที่ทั้งหมดจะล้มกลิ้งล้มหงาย แต่การกระทำของเหล่านายด่านทั้งหมดนี้ ทำให้แฟนบอล "หงส์แดง" แฮปปี้เหลือเกิน

    เนื่องจากการได้เห็นใบหน้าของ อลีสซง ที่ยิ้มระรื่น และหัวเราะตลอดเวลากับช่วงเวลานี้ เป็นการบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า ความสัมพันธ์ของนายทวารทั้ง 4 คนเหนียวแน่น และมีความสุข แม้ว่าพวกเขาจะพยายามแย่งชิงมือ 1 กันก็ตาม แต่ก็ไม่มีความบาดหมางอะไรทั้งสิ้น
5. ไม่มีผ่อนเครื่อง
    สำหรับตอนนี้ ลิเวอร์พูล มีคะแนนทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปไกลสุดกู่ถึง 22 คะแนน โดยเหลือการแข่งขันอีก 13 แมตช์ และพวกเขาต้องการเพียงแค่ 18 แต้มก็เพียงพอที่จะคว้าแชมป์ลีก ซึ่งอาจทำให้หลายคนคิดว่า "เดอะ เร้ดส์" จะมีอาการเหยาะแหยะ และออกลูกประมาท แต่ขบอกว่าไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน

    เพราะหลังจากที่หมดช่วงพักเบรกหนีหนาว เหล่าแข้ง "หงส์แดง" ได้กลับมาลงฝึกซ้อมวันแรก พร้อมกับความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม และเอาจริงเอาจัง ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่า ลิเวอร์พูล เต็มไปด้วยสมาธิ และยังไม่คิดการณ์ใหญ่เกี่ยวกับความสำเร็จที่กำลังรออยู่ข้างหน้า

    เจอร์เก้น คล็อปป์ คอยทำหน้าที่เฝ้าดู และสั่งคุมเข้มในการฝึกซ้อมเต็มที่ แน่นอนว่าการทำแบบนี้ นายใหญ่ชาวเยอรมัน คงอยากให้ลูกทีมพยายามเดินเครื่องเต็มสูบ เพื่อหวังไม่ให้ทีมสะดุดแม้แต่เกมเดียว และคว้าแชมป์ลีกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

     อย่าลืมว่า ลิเวอร์พูล ไม่ได้มีลุ้นเพียงแค่แชมป์พรีเมียร์ลีก เท่านั้น พวกเขายังมีลุ้นความสำเร็จแบบทริปเบิ้ลแชมป์ เนื่องจากทีมก็ทะลุเข้ารอบ 5 ศึกเอฟเอ คัพ และรอบ 16 ทีมสุดท้ายรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยสถานการณ์ในเวลานี้ทำให้ "หงส์แดง" มีโอกาสจะประสบความสำเร็จเฉกเช่นที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยทำได้ในฤดูกาล 1998/1999

 

เพิ่มเติม : sosep.org