[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ติดต่อสอบถาม
blog สมาชิก
สถิติผู้เขียน blog 10 อันดับ
wave
[ มือใหม่ ]
2
admin
[ มือใหม่ ]
2
orean
[ มือใหม่ ]
2
KAT
[ มือใหม่ ]
1
yuy
[ มือใหม่ ]
1
aTon
[ มือใหม่ ]
1
fang
[ มือใหม่ ]
1
film
[ มือใหม่ ]
1
mild
[ มือใหม่ ]
1
Donus
[ มือใหม่ ]
1
บทความ blog ล่าสุดโดย
เพลงคริสต์มาสtortae
การดูแลรักษาสุภาพ ให้แข็งแรงaTon
ประเพณีวันเข้าพรรษาmild
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
อาเซียนDonus
การวาดภาพสีนำ้lovepop-123456
อาเซียนmikekung02
ลดความอ้วนสูตรนางเอก 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์yuy
ปรากฏการณ์ธรรมชาติMin-Mintra
ไลน์ โรงเรียนศรัทธาฯ

ติดต่อ สอบถาม

poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก

  

   เว็บบอร์ด >> >>
4 ผลไม้ที่จัดว่าเป็นอาหารผิวชั้นดี  VIEW : 2056    
โดย 009

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 20
ตอบแล้ว : 2
เพศ :
ระดับ : 3
Exp : 82%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 178.128.126.xxx

 
เมื่อ : อังคาร ที่ 1 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2562 เวลา 21:15:28   

ยิ่งเวลาผ่านไป ผิวพรรณของเราก็จะเริ่มเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา การดูแลผิวเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดจึงควรทำจากภายในสู่ภายนอก นั่นก็คือการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ควบคู่ไปกับการทาครีมบำรุงผิวต่างๆ ซึ่งผลไม้ที่เป็นของใกล้ตัวเราหลากหลายชนิด ก็มีส่วนช่วยฟื้นบำรุงผิวสวยได้ด้วย 1. แตงโม ADVERTISING inRead 

invented by Teads แตงโมเป็นอาหารผิวชั้นดีอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ เพราะในแตงโมมีวิตามินเอ ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการผลิตไขมัน มีส่วนช่วยให้ผิวชุ่มชื้น นอกจากนั้นวิตามินเอยังเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายอีกด้วย 2. มะเขือเทศ ในผลมะเขือเทศอุดมไปด้วยวิตามินซี ที่ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง นอกจากนั้น

ยังมีสารที่ช่วยชะลอวัยให้ผิวพรรณเราอ่อนเยาว์ และยังช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะทานเล่น หรือปั่นเป็นน้ำผลไม้ทานก็ดีต่อสุขภาพผิวเช่นกัน 3. สตรอว์เบอร์รี สตรอว์เบอร์รีมีวิตามินซีอยู่มาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับผิวของเรา ช่วยต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้ยังมีวิตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และกรด

Ascorbic acid ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดงในร่างกายอีกด้วย 4. มะนาว น้ำมะนาวอุดมไปด้วยวิตามินซีสูง ซึ่งสามารถสร้างภูมิคุ้มกันสำหรับร่างกายได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสได้อีกด้วย รวมผักที่รสชาติไม่ขม ไม่เหม็นเขียว สำหรับผู้ที่ไม่ชอบกินผัก เมื่อพูดถึงผัก บางคนอาจจะหันหน้าหนี เพราะไม่

ชอบรสชาติขมๆ บวกกับกลิ่นเหม็นเขียว จริงๆ ก็ตรงตามตำรับที่เขาว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา แต่ถ้าหากใครไม่ไหวกับผักจริงๆ เรามีผักทางเลือกที่รสชาติไม่ขม ไม่เหม็นเขียว ทานง่าย อร่อย แถมยังได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์อีกด้วย 1. บล็อกโคลี ผักสีเขียวชนิดนี้ขอการันตีเลยว่าไม่เหม็นเขียว ทานง่าย แถมอาจจะเป็นผักชนิดโปรดของหลายๆ

คนด้วย ต้มสุกแล้วทานกับน้ำสลัดเพื่อลดน้ำหนักก็ดี หรือจะนำไปผัดน้ำมันหอยก็อร่อยถูกปากคนที่ไม่ชอบทานผักแน่นอน 2. ดอกกะหล่ำ รูปร่างคล้ายๆ กับบล็อคโคลี่ ส่วนรสชาติก็อร่อยไม่ต่างกันเลย นำไปต้มหรือผัดน้ำมันหอยก็น่าทาน ซึ่งเมนูยอดฮิตที่นิยมทำจากดอกกะหล่ำก็คือ ผัดดอกกะหล่ำใส่กุ้ง 3. ผักกาดขาว ผักกาดขาวเป็นตัวเลือกแรกๆ

ที่อยากแนะนำสำหรับผู้ที่ตั้งใจว่าจะหัดทานผัก เพราะไม่ออกรสขมและไม่เหม็นเขียว ในช่วงแรกอาจจะเริ่มจากต้มจืดผักกาดขาว โดยต้มผักให้นิ่มๆ ก่อน แล้วค่อยลองทานประเภทผัดดูก็ได้ 4. แครอท พอไม่มีสีเขียวแล้วมันก็ดีขึ้นมาทันทีเลย แครอทเป็นผักอีกชนิดที่คนที่ไม่ชอบทานผักทุกคนควรลอง เพราะไม่ขมเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังออกรส

หวานเสียด้วยซ้ำ สามารถนำไปทำอาหารได้หลากหลายมาก ต้ม ส้มตำ ผัด อร่อยแน่นอน 5. ฟักทอง ฟักทองเป็นผักอีกชนิดที่ออกรสหวาน ทานง่าย สามารถนำไปทำได้ทั้งเมนูของคาว อย่าง ผัดฟักทองใส่ไข่ แกงฟักทอง และของหวาน อย่าง ฟักทองแกงบวด เลือกทานได้ตามใจเลย

รวบรวมเนื้อหาโดย UFA369 เว็บเกมส์ UFABET อันดับ 1 ของไทย
สมัคร แทงบอล และ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด





โดย 002
UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1
ตอบแล้ว : 20
ระดับ : 1
Exp : 100%
IP : 178.128.209.xxx

 
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 8 ต.ค. 2562 : 19:37

เรื่องราวที่ต่อเนื่องอย่างที่เรียกว่าจบภาคแรกเมื่อ 14 ปีก่อนปุ๊บก็เดินเรื่องเข้าสู่ภาคต่อนี้ทันที แตกต่างด้วยคุณภาพของงานที่เนียนขึ้นตามวันเวลาและเทคโนโลยี หนังเปลี่ยนให้บ็อบผู้เชื่อมั่นในการแสดงออกถึงพลังที่เปี่ยมด้วยจิตใจที่ดีของซูเปอร์ฮีโร่ที่มักถูกมองว่าออกปฏิบัติการแต่ละครั้งมักจะเห็นแต่การทำลายข้าวของสร้าง

ความเสียหาย เพศชายที่ดูเป็นใหญ่แต่กลับมีแค่เฮเลนผู้เป็นภรรยาที่ได้สิทธิออกไปช่วยเหลือผู้คน และตนต้องมารับหน้าที่พ่อบ้าน ดูแลลูกอยู่ที่บ้านซึ่งเป็นงานที่หนักหนาเอาการเลยเชียว Incredibles 2 รวมเหล่ายอดคนพิทักษ์โลก 2 ภาพจากแอนิเมชั่น ‘รวมเหล่ายอดคนพิทักษ์โลก 2’ บ็อบต้องทั้งดูแลไวโอเล็ต ลูกสาวคนโตที่

เริ่มมีปัญหาเรื่องรักๆ ใคร่ๆ งอนพ่อบ่อยอย่างกับอะไรดี รับมือการสอนการบ้านเลขกับแดช ลูกชายคนกลางที่อยากเหลือเกินที่จะแสดงออกซึ่งพลังที่ตนมี และยังต้องดูแลเจ้าตัวเล็ก แจ็ค-แจ็ค ที่แสนซนอย่างมากมาย แถมไปๆ มาๆ ก็เลยได้รู้ว่า เขามีพลังพิเศษหลายอย่างๆ สลับโหมดใช้สนุกมือ แต่ยังไม่สามารถควบคุมการใช้

พลังได้เลยนี่สิที่น่าห่วง Incredibles 2 โปสเตอร์หนัง ‘รวมเหล่ายอดคนพิทักษ์โลก 2’ สิ่งที่รู้สึกได้ก็แอนิเมชั่นอย่าง ‘รวมเหล่ายอดคนพิทักษ์โลก 2’ เป็นก็คือ การพูดในหลายประเด็น แต่ก็มีบ้างบางประเด็นที่เหมือนจะพูดถึงอยู่ช่วงหนึ่งก่อนจะลืมๆ ไป หันไปพูดอีกเรื่องแทน อย่างประเด็นของเรื่องของกฏหมายซูเปอร์ฮีโร่ ประเด็น

ของการที่มนุษย์ผู้รักความง่าย การมีฮีโร่มาช่วยปัดเป่ามาทำให้ชีวิตง่ายดี แต่ยังไงลงท้าย หนังก็ต้องกลับไปพูดเรื่องครอบครัวอย่างจริงจังอยู่ดี มันคงไม่แปลกที่แอนิเมชั่นครอบครัวจะพูดถึงประเด็นครอบครัวเป็นหลัก แต่มันก็ทำให้ประเด็นอื่นๆ ถูกดึงเข้ามาแบบแตะๆ ปล่อยๆ นั่นเอง อีกส่วนก็คือ หนังมีการลีมตัวร้ายบางตัวไปเสีย

สิ้น เพื่อไปเรื่องตัวร้ายอีกตัวแทน ตัวละครบางตัวก็ปูมาอย่างที่คาดการณ์ได้ทันทีว่าเดี๋ยวต้องมีพลิก! Incredibles 2 รวมเหล่ายอดคนพิทักษ์โลก 2 ภาพจากแอนิเมชั่น ‘รวมเหล่ายอดคนพิทักษ์โลก 2’ สิ่งที่ทำให้หนังสนุกในภาคนี้ นอกเหนือจากงานภาพที่พัฒนาขึ้นมาเมื่อเทียบกับภาคที่แล้ว

รวบรวมเนื้อหาโดย UFA369 เว็บเกมส์ UFABET อันดับ 1 ของไทย
สมัคร แทงบอล และ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด



      
โดย 002
UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1
ตอบแล้ว : 20
ระดับ : 1
Exp : 100%
IP : 178.128.209.xxx

 
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 16 ต.ค. 2562 : 18:37

ส่วนใหญ่หนังหรือซีรีส์เกาหลีมักเทียบความรักที่ก่อตัวสดใสกับความบานฉ่ำของฤดูใบไม้ผลิ เทียบการรอคอยหรือความหวังกับหิมะแรกของฤดูหนาว ส่วนเรื่องนี้ความรักของพวกเขาเป็นเหมือนสัญญาใจที่มาและจากลาพร้อมกับฝน ล้อกับน้ำตาแม่นกเพนกวินเมื่อต้นเรื่อง ซีนอบอุ่นน่ารักๆที่รักษาเอกลักษณ์ของสไตล์ความเป็น

เกาหลีไว้ได้ดี ซึ่งใครก็ขโมยไปไม่ได้ เช่น ฉากครอบครัว piggyback ซ้อนสาม เรารักกันจึงไปพร้อมๆกัน นี่ถ้าไม่ได้โซจีซบร่างใหญ่บึกบึน คงเหนื่อยเอาเรื่องเลยฉากนี้ ความสมเหตุสมผลในการอธิบายปาฏิหาริย์ของสัญญารักในสายฝน ก็ทำได้ดี ลงตัว เข้าใจง่าย แต่มันจะคืออะไร คงต้องติดตามดูเอง ความละเอียดในงาน

โปรดัคชั่นก็เป็นสิ่งที่ผู้เขียนประทับใจนะ ด้วยความที่เป็นหนังย้อนยุค ผู้เขียนเลยแอบส่องข้าวของจับผิด เอ๊ย ไม่ใช่ ชอบดูข้าวของยุคเก่า มันคลาสสิคมีเสน่ห์ดี เลยเห็นว่าบางฉากก็ยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อ Sharp และ Sony ปะปน ดูสมจริงสอดคล้องกับยุคที่ LG, Samsung ยังไม่เฟื่องเต็มที่ ปิดท้ายด้วยฝีมือของนักแสดงที่ร่วม

กันถ่ายทอดความเรื่องราวอบอุ่นหัวใจของครอบครัวนี้ได้อย่างสวยงาม และยังมีโบนัสแถมด้วย ดารารับเชิญ กงฮโยจิน และ พัคซอจุน ที่มาร่วมเติมสีสันให้กับหนังด้วยบทที่น่ารักชวนอมยิ้มทั้งคู่ สำหรับรีวิวในมุมผู้ที่เคยชมเวอร์ชั่นญี่ปุ่นมา คงรู้สึกเหมือนผู้เขียนว่า มันเหมือนหนังคนละ genre เหมือนอาหารเมนูเดียวกัน ส่วนผสม

เกือบๆเหมือนกัน แต่ปรุงรสแต่งหน้าต่างไป เหมือนมีสีสันจัดจ้านหลายรสขึ้น แต่เนื้อหาหลักของเรื่องยังคงแกนหลักไว้เหมือนกัน แค่มีการตีความในรายละเอียดต่างกันบ้างเล็กน้อยปรับไปตามบริบทวัฒนธรรมต่างสังคม และ

ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปเป็นการวางบทที่ค่อยๆเผยทุกอย่างไปทีล่ะเปราะ ใช้ความเงียบงัน เพลงโทนต่ำกดดันอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆกับเคทที่ตกลงในบ่วงความจริงที่มืดมิดแบบสุดๆ

รวบรวมเนื้อหาโดย UFA369 เว็บเกมส์ UFABET อันดับ 1 ของไทย
สมัคร แทงบอล และ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด



      
โดย 002
UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1
ตอบแล้ว : 20
ระดับ : 1
Exp : 100%
IP : 178.128.209.xxx

 
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 20 ต.ค. 2562 : 10:33

การให้ซีนตัวละครสมทบมากเกินไปทำให้ตัวละครที่ควรจะใส่ใจมันถูกพรากความน่าสนใจไป จนกระทั่งหลังจากออกจากหมู่บ้านกันมาแล้วถึงจะรู้สึกว่าพระเอกปลัดชูเริ่มเด่นและน่าติดตามขึ้นมาทันที แต่มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้อินตามได้อยู่ดีซึ่งน่าเสียดาย นอกจากนั้นหนังก็ยังมีฉากที่น่าจะรวบรัดได้อีกมาก แต่สิ่งที่ดีก็ยังมี

อยู่คือความน่าสนใจในการตำหนิราชการหัวเมืองหลักที่ปล่อยให้ชาวบ้านออกมารบแทนพวกตัวเองที่เสวยสุขอยู่ในที่พักแรม แต่ขณะเดียวกันก็ยังเป็นหนังชาตินิยมที่ไม่น่าเกลียด ด้วยการให้ตัวละครพระเอกยืนหยัดในเกียรติและศักดิ์ศรีของตนที่จะไม่ทรยศต่อชาติบ้านเมือง และขณะเดียวกันก็ให้ฝั่งศัตรูอย่างพม่าได้พูดอะไรสัก

อย่างที่เป็นธรรมกับพวกเขาบ้าง อย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นหนังเรื่องอื่นๆ ทำ หรือถ้าหากทำก็ไม่น่าจดจำได้ขนาดนี้ เพราะนี่เป็นเหมือนการให้เกียรติกันและกันอย่างพอเหมาะพอควร ดีใจที่ได้อุดหนุนหนังเรื่องนี้ในโรง ดีใจที่หนังมันดีกว่าที่คาดเอาไว้มากๆ จากหน้าหนัง ดีใจที่ได้เห็นนักแสดงมากมายในหนังมีดีเรื่องนี้ หลายๆ คนที่ไม่คิดว่า

จะได้เห็น อย่าง นักร้อง แมงปอ ชลธิชา และ ต่าย สายธาร ที่ไม่ได้เห็นหน้ามานานก็ได้เห็น ถึงจะเป็นบทเล็กๆ ก็ตามที สุดท้ายนี้ก็ขอให้ได้ทุนคืนและได้กำไร และจะรอดูผลงานเรื่องต่อๆ ไปครับ ซ้ำร้าย คือแทนที่หนังจะเลือกเล่าแบบเรียบง่าย ลำดับเหตุการณ์ค่อยเป็นค่อยไป แต่นี่กลับเลือกโชว์เหนือตัดสลับเล่า 2 เหตุการณ์

ประหนึ่งเทพโนแลนเข้าสิง แต่เอาจริงๆพอหนังออกมานี่คนดูแทบอยากทำหน้าเหยเกแบบเทพเฟซบุ๊คไลฟ์. เพราะนอกจากจะดูแทบไม่รู้เรื่องแล้ว ความสะดุดยังพาให้อารมณ์ถูกกระชากขาดความต่อเนื่องจนน่ารำคาญซะอีก ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อบทหนังละเลยการปูพื้นตัวละครให้เราอยากเอาใจช่วย ต่อให้มีคำพูดปลุกใจอย่าง “ถึงข้าจะ

ตาย แต่อโยธยาจะคงอยู่สืบต่อไป” ไม่แน่ว่าผลงานชิ้นต่อไปของป๋า อาจจะเกิด "เรื่องใหม่ ๆ", "งบน้อย ๆ" และ "พลิกล็อค" ขึ้นมาได้จริง ๆ

รวบรวมเนื้อหาโดย UFA369 เว็บเกมส์ UFABET อันดับ 1 ของไทย
สมัคร แทงบอล และ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด



      
โดย 002
UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1
ตอบแล้ว : 20
ระดับ : 1
Exp : 100%
IP : 178.128.209.xxx

 
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 27 ต.ค. 2562 : 16:55

เป็นอีกหนึ่งงานที่ยอดเยี่ยมมากๆ ของเวส แอนเดอร์สันเลย ชื่นชมและชื่นชอบทุกอย่างที่อยู่ในหนังเลย ดูเพลิ๊นเพลิน... มีความสนุก น่าตื่นเต้น น่าติดตาม ถูกจริตมากๆ ทั้งวิธีการเล่าเรื่อง การออกแบบตัวละคร ตัวหุ่นตุ๊กตาหมาน้อย(นักแสดง)ต่างๆ เพลง ทุกอย่างดูน่าตื่นตาตื่นใจ หนังจบอารมณ์ไม่จบแน่ๆ คาดว่าหลายคนหลังจากดู

ต้องทำอะไรบางอย่างต่อ เช่นโหลดเพลงมาฟัง หาภาพสวยๆจากในหนังมาใช้เป็นวอลเปเปอร์ หางานเบื้องหลังการสร้างมาดู หรือย้อนดูงานเก่าๆของเวส แอนเดอร์สันไปเสพต่อก็จะดีเหมือนกัน.... หลังจากงานที่หลายคนเรียกว่าเป็นงานมาสเตอร์พีซของเฮียเวสอย่าง “The Grand Budapest Hotel” ที่ขึ้นแท่นชั้นครูถูกฉายเมื่อ

หลายปีก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องล่าสุดของเฮียเขาเลย... น่าจะถูกกระแสจับตา และเปรียบเทียบมาก สำหรับเด็กเดินตั๋วบอกเลยว่ามันคนละอย่างกัน... อย่าเอาไปเทียบกันเล๊ยยยยย งานนี้เป็นงาน Animation Stopmotion ที่ถ่ายตัวหุ่นทีละเฟรมแล้วเอามาประกอบกันเป็นเรื่องราว น่าจะคล้ายๆกับงานเก่าของเฮียเวสเรื่อง “Fantastic

Mr.Fox” เสียมากกว่า และเหมือนเรื่อง Kubo ของค่าย Sony เมื่อสองสามปีก่อน และหลายๆ งานที่ถนัดๆ ของ Tim Burton อาทิ Nightmare Before Chirstmas หรือ Franken Ville แต่ไม่ว่าอย่างไร “Isle of Dog” มีความเป็นเวส แอนเดอร์สันสูงมาก ไม่ตกมาตรฐานของเฮียแกเขาเลย มีหลายๆอย่างที่เป็นสไตล์ของเฮียแกชัดเจน

มากอยู่ในหนังเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการเคลื่อนกล้อง การเลือกใช้สี วิธีการเล่าเรื่องเป็น Chapter เป็นองก์ เป็นบทๆไป... วิธีการสร้างตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นท่าทาง บุคลิก การใช้คำพูด วิธีการคิดของตัวละครมันมีเสน่ห์มากๆ วิธีเล่าเรื่อง การหักมุม มุกต่างๆ มันช่างเป็นสไตล์เวส แอนเดอร์สันอย่างชัดเจนมากๆ ยิ่งดูยิ่งฟิน ชั้นเชิงเทพและเก๋ไก๋มากๆ

 

รวบรวมเนื้อหาโดย UFA369 เว็บเกมส์ UFABET อันดับ 1 ของไทย
สมัคร แทงบอล และ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด



      
1