[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ติดต่อสอบถาม
blog สมาชิก
สถิติผู้เขียน blog 10 อันดับ
wave
[ มือใหม่ ]
2
admin
[ มือใหม่ ]
2
orean
[ มือใหม่ ]
2
KAT
[ มือใหม่ ]
1
yuy
[ มือใหม่ ]
1
aTon
[ มือใหม่ ]
1
fang
[ มือใหม่ ]
1
film
[ มือใหม่ ]
1
mild
[ มือใหม่ ]
1
Donus
[ มือใหม่ ]
1
บทความ blog ล่าสุดโดย
เพลงคริสต์มาสtortae
การดูแลรักษาสุภาพ ให้แข็งแรงaTon
ประเพณีวันเข้าพรรษาmild
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
อาเซียนDonus
การวาดภาพสีนำ้lovepop-123456
อาเซียนmikekung02
ลดความอ้วนสูตรนางเอก 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์yuy
ปรากฏการณ์ธรรมชาติMin-Mintra
ไลน์ โรงเรียนศรัทธาฯ

ติดต่อ สอบถาม

poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก
  

  หมวดหมู่ : สุขศึกษาและพลศึกษา
เรื่อง : เทคนิคการหายใจ ในขณะที่วิ่ง
blog name : lovebiw
ระดับ : [ มือใหม่ ]
เข้าชม : 2987
อังคาร ที่ 17 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2556
A- A A+
        

การหายใจมี 2 แบบ คือ การหายใจด้วยกล้ามเนื้อซี่โครง ( Costal หรือ Chest Breathing ) และการหายใจด้วยการใช้
กล้ามเนื้อกระบังลม ( Abdominal Breathing )


ปกติคนเราจะหายใจด้วยการใช้กล้ามเนื้อซี่โครงเป็นหลัก คิอเวลาหายใจเข้าหน้าอกจะขยายตัวและหน้าท้องจะยุบ
เวลาหายใจออกหน้าอกจะยุบและหน้าท้องขยายตัวหรือพองออก เวลาวิ่งเร็วๆและวิ่งนานๆจะจุกเสียดชายโครงได้ง่าย


ถ้าฝึกหายใจด้วยกระบังลม เหมือนการฝึกหายใจในการร้องเพลง คือเวลาหายใจเข้าจะใช้กล้ามเนื้อกระบังลม
คือกล้ามเนื้อกระบังลมจะเคลื่อนตัวลงทำให้ลมเข้าไปในปอด หน้าท้องจะพองหรือขยายตัว ( พุงป่อง ) และเวลาหายใจออก
กล้ามเนื้อกระบังลมจะเคลื่อนตัวขึ้น พุงจะยุบ วิธีการหายใจแบบนี้จะทำให้ไม่จุกเสียดชายโครงถ้าวิ่งนานๆ
แต่ถ้าวิ่งเร็วมากๆจนหายใจไม่ทันเป็นคนละเรื่องนะครับ แบบนั้นต้องลดความเร็วลงครับจนหายใจได้สบาย


การหายใจแบบนี้จะไม่เหมือนกับที่เราหายใจปกติ เลยต้องฝึกนะ  เหมือนที่นักร้องฝึกในการร้องเพลง
อยู่ว่างๆก็ฝึกไว้นะ  อย่างน้อยถึงวิ่งไม่เก่งก็จะทำให้ร้องเพลงได้ดีขึ้น


การหายใจควรเป็นไปโดยธรรมชาติ หายใจเข้าออกผ่านจมูก แต่ถ้าอยู่ในการช่วงที่ฝึกเพื่อพัฒนาความเร็ว
( Fartlek หรือ Interval ซึ่งเป็นการฝึกปอดและหัวใจ ) อาจจะมีช่วงที่ฝึกหนักถึง 80-90 % ของอัตราเต้นสูงสุดของหัวใจ
อาจจำเป็นต้องหายใจผ่านปากด้วย แต่ถ้าเป็นการวิ่งปกติแล้วถ้าหายใจไม่ค่อยทันแสดงว่าวิ่งเร็วเกินไป ก็คงต้องผ่อน คือลดความเร็วลง

ตามปกติแล้วถ้าวิ่งไปได้สักพักจังหวะการหายใจจะปรับเข้ากับจังหวะการวิ่งเอง ซึ่งจะเป็นช่วงจังหวะที่เรารู้สึกว่าลงตัวและ
รู้สึกสบาย ของผู้เขียนเองถ้าวิ่งช้าก็จะเป็นจังหวะ 3:3 ( หายใจเข้า 3 ก้าว หายใจออก 3 ก้าว ) แต่ถ้าวิ่งเร็วจังหวะจะเปลี่ยนเป็น
2:2 เวลาอยู่ว่างๆก็สามารถฝึกหายใจด้วยกระบังลมได้ ขอให้สนุกกับการวิ่งนะ



Not Rated stars เฉลี่ย : Not Rated จาก 0 ครั้ง.
รายละเอียดผู้เขียนบทความ blog
blog name :
เจ้าของ blog :
อาชีพ :
สถานที่ทำงาน :
จำนวนบทความใน blog :
ระดับของ blog :
lovebiw
ณิราวรรณ ชาวยอง
14/3/2542

1 เรื่อง
[ มือใหม่ ]

สุขศึกษาและพลศึกษา 5 อันดับล่าสุด

      การดูแลรักษาสุภาพ ให้แข็งแรง 17/ธ.ค./2556
      เทคนิคการหายใจ ในขณะที่วิ่ง 17/ธ.ค./2556